การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) แถลงว่า ที่ประชุม ปปช.วันนี้ (13 พ.ย.) ได้พิจารณา เรื่องกำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 2 ธันวาคม 2561 หลังจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เสนอให้ ปปช.ทบทวนในส่วนตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย
ที่ประชุม ปปช.พิจารณาแล้ว เห็นว่าตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ยังคงเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อกรรมการ ปปช. เพราะมีส่วนร่วมในการพิจารณาใช้จ่ายงบประมาณในมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากเป็นตำแหน่งใหม่ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หากจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จะกระทบต่อการบริหารงานของมหาวิทยาลัย
ที่ประชุมจึงมีมติให้ขยายระยะเวลาในการบังคับใช้ประกาศ เฉพาะส่วนตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตำแหน่งประธานสภาสถาบัน รองประธานสภาสถาบัน และกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า โดยให้ขยายระยะเวลาบังคับใช้ออกไปอีก 60 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 มกราคม 2562
ส่วนกรณี สมเด็จพระสังฆราช ที่ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินนั้น นายวรวิทย์ กล่าวว่า ที่ประชุม ปปช. ให้เหตุผลว่า เนื่องจากไม่ทรงดำรงอยู่ในสถานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้บริหารระดับสูง จึงยกเว้นไว้