สื่อสหรัฐฯ ยก เศรษฐกิจไทยเติบโตมากขึ้น หลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลของสหรัฐฯรายงานอ้าง นายชานนท์ บุญนุช นักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ในเอเชียรู้สึกมั่นใจในการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยมีปัจจัยบวก จากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯทำสถิติใหม่ปิดที่ 26,657 จุด เพิ่มร้อยละ 0.95

สำหรับประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของวิกฤติเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มาในวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นของไทยอยู่ในภาวะที่มีการลงทุนอย่างคึกคักโดยต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มราวร้อยละ 10 นับแต่วันที่ 29 มิถุนายน ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นของไทยอยู่ในแดนบวกคือร้อยละ 0.3 ในปีนี้ ขณะที่ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.5 ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ประเทศไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 เทียบกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดร้อยละ 8 ในปี 2539 ส่งผลทำให้ในปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่แทนที่จะพึ่งพาเงินทุนจากต่างชาติมากเกินไปในช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ

นายชานนท์ คาดว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นของไทยในปีหน้าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก รัฐบาลประกาศจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ด้านนางไอรีน เฉิง นักยุทธศาสตร์ระดับสูงสำหรับภูมิภาคเอเชีย ของธนาคารเอเอ็นซี ของออสเตรเลีย เพิ่มเติมว่าประเทศไทย จะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อไป เนื่องจาก ประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ และจะไม่ได้รับผลกระทบสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯมากนักเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศในเอเชีย