ความคืบหน้าคดีที่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างก่อเหตุเตรียมกระทำอนาจารเด็กหญิงวัย9ปีในห้องน้ำภายในวัดอยู่ดีบำรุงธรรม หรือ วัดออเงิน ย่านสายไหม เด็กหญิงพร้อมผู้ปกครองเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบด้วย พันตำรวจโทธนู สุขเสริม รองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ รับเพียงว่าได้รับเด็กหญิงเพื่อพาไปส่งบ้านจริง แต่ระหว่างทางเกิดปวดท้อง จึงแวะเข้าห้องน้ำในวัด ซึ่งเด็กหญิงตามเข้าไปในห้องน้ำเอง เมื่อตนเองกำลังถอดกางเกงจะทำธุระ ปรากฏว่าเด็กหญิงตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบหลบหนีไป เบื้องต้นยังไม่เชื่อคำให้การดังกล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง และยังให้การบางอย่างไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าชื่อ ปัญญา แก้ววิไลย์ แต่เมื่อนำไปตรวจสอบในทะเบียนประวัติกลับไม่พบชื่อบุคคลดังกล่าว โดยตำรวจได้แจ้งข้อหากระทำอนาจารเด็กฯ, พรากผู้เยาว์ฯ, หน่วงเหนี่ยวถูกกักขังฯ, เมาแล้วขับ, และเสพยาเสพติด ก่อนเตรียมคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีฝากขังตัวชั่วคราวในวันพรุ่งนี้
ด้านพระศักดา บานชื่น พระลูกวัดที่ให้การช่วยเหลือเด็กหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุ ขณะอยู่ที่วัด ใกล้ห้องน้ำ เห็นคนร้ายขับจักรยานยนต์มาพร้อมกับเด็กหญิงท่าทางมีพิรุธเข้ามาจอดหน้าห้องน้ำวัด จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปที่ห้องน้ำและเรียกเด็กเข้าไปด้วย ก่อนได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงไปตามพระอีกรูปให้มาเป็นเพื่อน แล้วหยิบแท่งเหล็กตีระฆังมาเคาะประตูห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงได้เคาะเรียกอีกหลายครั้ง จนคนร้ายเปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วรีบเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป ขณะนั้นเด็กหญิงกำลังยืนร้องไห้อยู่ แต่ไม่พบว่าถูกถอดเสื้อผ้า จึงโทรแจ้งตำรวจ และประสานผู้ปกครองรับตัว โดยพระศักดาเดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาเพื่อประกอบสำนวน
ภายหลังเข้าให้การนาน2ชั่วโมงครึ่ง พ่อของเด็กหญิงพาน้องเดินทางกลับ เปิดเผยสั้นๆว่า สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว คลายเครียด โดยชุดสหวิชาชีพได้ประเมิน ให้หยุดการสอบปากคำก่อน ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอตอบ หลังจากนี้ทีมจิตแพทย์ก็จะวางแผนไปที่โรงเรียนและบ้านเพื่อติดตามอาการของน้องต่อไป