ราชกิจจาฯประกาศ กกต.ประกาศจำนวน สส.แบ่งเขต350คน 23จว.สส.ลดลง

ประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ  กกต.เรื่อง จำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ได้ลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยใช้จำนวนราษฎร ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2560 จำนวนกว่า 66 ล้านคน ต่อส.ส.เขต 350 ดังนั้นจำนวนราษฎรเฉลี่ย 189,110 คนต่อจำนวนส.ส.1 คน

สำหรับการเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จำนวน ส.ส.เขต มี 350 คน ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งในปี 2557 จำนวน 25 คน ใน 23 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. 3 เขต ขณะที่ จ.กระบี่ , กาฬสินธุ์, ชัยภูมิ, เชียงใหม่, ตรัง, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, นนทบุรี, บุรีรัมย์, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบูรณ์, แพร่, ร้อยเอ็ด, เลย, สกลนคร, สตูล, สระบุรี, สุพรรณบุรี, สุรินทร์, อุดรธานี, อุตรดิตถ์และอุบลราชธานี ลดลงจังหวัดละ 1 เขต

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า จะทำให้เสร็จภายใน 60 วัน ส่วนอีก 30 วัน ก่อนพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ สำหรับขั้นตอนการแบ่งเขตจะเริ่มในวันนี้ คือ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะใช้เวลา 14 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป เพื่อกำหนดรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง 3 รูปแบบ ตามข้อ 6 ของระเบียบการแบ่งเขต โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในระเบียบ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 ตุลาคม 2561 และใช้เวลาอีก 10 วัน ประกาศให้ประชาชน พรรคการเมืองให้ความเห็น จากนั้นผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะรวบรวมความเห็นภายใน 3 วัน คือ วันที่ 13 ตุลาคม เพื่อส่งให้ กกต.พิจารณา ภายใน 20 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 และนำส่งเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมแล้วประมาณ 55 วัน  อย่างไรก็ตาม หากทำเสร็จเร็ว ก็จะทำให้พรรคการเมืองมีเวลาในการหาตัวผู้สมัคร โดยมีเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน

ส่วนการเชิญพรรคการเมืองมาประชุมในวันที่ 28 ก.ย.นี้ว่า มีการกำหนดประเด็นเพื่ออธิบายว่า จะทำอย่างไรให้มีการเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและคำสั่งคสช. โดยจะมีการหารือและตอบคำถามแก่พรรคการเมือง เพื่อสร้างความชัดเจนที่ถูกต้องร่วมกัน ไม่ให้เสียเวลาถามตอบกลับไปกลับมา 

ประธานกกต.กล่าวว่า ขณะนี้การยกร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงทางโซเซียลมีเดีย มีความคืบหน้าไปตามลำดับ ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่กฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ให้มีการหาเสียงได้ และไม่คิดว่าจะมีการห้ามหาเสียงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่จะหาเสียงอย่างไรให้เหมาะสม ไม่กระทบต่อการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม หากใช้โจมตีกันอย่าว่าแต่หาเสียงเลย ในบริบทของกฎหมายอาญาก็ยังทำไม่ได้

ด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีระบุว่าบางพื้นที่มีการเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้งและทำให้บัตรเสีย หรือโหวตโน ว่า หากมีการกระทำลักษณะดังกล่าวกกต.จังหวัดก็จะต้องเข้าไปตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานจาก กกต.จังหวัดถึงเรื่องดังกล่าวมายัง กกต.กลางแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน กกต.ก็จะมีการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวิธีที่ถูกต้อง ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าจะให้พรรคการเมืองหาเสียงได้หลัง 16 ธ.ค.นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ในส่วนของ กกต. เห็นว่าการหาเสียงจะเริ่มได้หลังพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง มีผลบังคับใช้