ผู้นำสหรัฐ ยุติมาตรการแยกลูกผู้อพยพออกจากพ่อแม่ หลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก

21 มิถุนายน 2561, 05:57น.


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันพุธ(20มิ.ย.) ออกคำสั่งยุติมาตรการแยกลูกผู้อพยพจากพ่อแม่ที่ถูกจับกุมขณะกำลังลอบข้ามชายแดนสหรัฐอเมริกา เป็นการกลับลำนโยบายเข้มข้นหลังถูกกดดันอย่างหนักจากทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกัน, เดโมแครตและประชาคมนานาชาติ  คำสั่งนี้กำหนดให้กักตัวครอบครัวคนเข้าเมืองอยู่ด้วยกัน หากคนเหล่านั้นถูกจับขณะกำลังพยายามลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ไม่ชัดเจนว่าการกักกันตัวนั้นจะมีระยะเวลายาวนานแค่ไหน



การเปลี่ยนแผนอย่างกระทันหันครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเด็กๆมากกว่า 2,300 คนถูกแยกตัวพ่อแม่หรือผู้ปกครอง หลังลักลอบข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม และถูกนำไปควบคุมตัวตามศูนย์กักกันต่างๆ โดยไม่สามารถติดต่อกับผู้ปกครองได้



ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นรูปเด็กๆ และเยาวชนนั่งอยู่ในกรงตาข่ายพื้นปูนตามศูนย์พักพิงต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะได้เจอหน้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองอีกครั้ง



แหล่งข่าวในทำเนียบขาวระบุว่าทรัมป์เริ่มยอมรับแล้วว่าประเด็นแยกครอบครัวกำลังกลายเป็นปัญหาทางการเมืองที่ขยายวงกว้างมากขึ้น โดย เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีอย่างลับๆ เรียกร้องให้เขาทำอะไรบางอย่าง 



ความเคลื่อนไหวในวันพุธ(20มิ.ย.) ถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นนักนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2017 ซึ่งเขายอมเปลี่ยนแนวทางของนโยบายหนึ่งๆซึ่งเป็นที่ถกเถียง แทนที่จะดื้อดึงเดินหน้าต่อไป



ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ที่ชูจุดยืนต่อต้านการลักลอบเข้าเมืองอย่างแข็งกร้าวเป็นผลงานสำคัญในตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น พยายามปกป้องนโยบายของตนเองโดยโยนความผิดเรื่องการพรากพ่อแม่ลูกให้พรรคเดโมแครต ทั้งที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสองสภา และคณะบริหารของตนเองเป็นผู้ผลักดันนโยบายจากกฎหมายคนเข้าเมืองที่ก้าวร้าวเด็ดขาดนี้

ข่าวทั้งหมด

X