บราซิล ประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองศูนย์กลางทางการเงิน หลังเหตุประท้วงน้ำมันแพง

นายกเทศมนตรีเมืองเซาเปาโล ศูนย์กลางทางการเงินของบราซิล ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังคนขับรถบรรทุกประท้วงเป็นวันที่ 5 ทำให้การคมนาคมขนส่งเป็นอัมพาต เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง การส่งออกได้รับผลกระทบอย่างเลวร้าย เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่พอใจราคาน้ำมันแพง อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งจ้างแรงงาน 132,000 คน ต้องหยุดกิจการ เพราะโรงงานไม่ได้รับการป้อนวัสดุ การท่าอากาศยานในกรุงบราซีเลีย เมืองหลวงของบราซิล ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 30 เที่ยว เนื่องจากไม่มีเชื้อเพลิง รวมถึงตามสถานีบริการน้ำมันหลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์ ผู้นำบราซิล แถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ว่า ได้มีคำสั่งให้กองกำลังรักษาความมั่นคงเคลียร์พื้นที่ เนื่องจาก กลุ่มผู้ประท้วง ขับรถบรรทุกนำสิ่งกีดขวางมาวาง และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กวาดเก็บเชื้อเพลิงที่กักเก็บไว้ตามสถานีบริการน้ำมัน จัดตั้งคณะกรรมาธิการฉุกเฉินคลี่คลายสถานการณ์ และอาจประกาศวันหยุดราชการ 1 วัน นอกจากนี้ ยังประกาศว่า จะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โรงพยาบาล จะต้องมียารักษาชีวิตผู้ป่วย รัฐบาลได้เจรจาทำความตกลงกับสหภาพแรงงานแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีให้ระงับการประท้วงทันทีเป็นเวลา 15 วัน แลกกับการยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มผู้ประท้วง 12 ข้อ แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนน้อยยังดื้อดึง

อย่างไรก็ดี นายโจคิม ซิลวา อี ลูนา รมว.กลาโหมบราซิล แถลงว่า กองทัพจะดำเนินการเปิดการจราจรในพื้นที่สำคัญอย่างรวดเร็ว เช่น บริเวณโรงกลั่นน้ำมันและสนามบิน ขณะที่ผู้นำสหภาพแรงงาน ซึ่งมีคนขับรถบรรทุกเป็นสมาชิก 700,000 คน ออกมาห้ามปรามการตัดสินใจของรัฐบาลในการใช้กองทัพเป็นเครื่องมือปราบปราม แต่ก็เรียกร้องให้สมาชิกให้ความร่วมมือด้วยการถอนสิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ประท้วง

สาเหตุน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาแพง นอกจากเป็นผลมาจากการตัดสินใจของรัฐบาลบราซิลเมื่อปลายปี 2559 ที่อนุญาตให้บริษัทน้ำมัน “เปโตรบราส” สามารถกำหนดราคาขายได้เอง ยังเป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และการประท้วงดังกล่าวยังมีขึ้นก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของบราซิลในอีก 5 เดือน

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP