พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมคณะทำงาน ดำเนินคดีเกี่ยวกับกลุ่มขบวนการรับจ้างทำผิดแทน หรือขบวนการสร้างแพะ ในคดีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร โดยได้มีการคุมตัวผู้ต้องหาสอบปากคำต่อเนื่อง สำหรับนายสับ วาปี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เคยออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถชนคนเสียชีวิตแทนครูจอมทรัพย์ ได้เข้ามอบตัวเมื่อวานนี้ และได้ยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายสุริยา นวลเจริญ เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ หลังจากถูกสอบเค้น
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นหลังมีการสอบสวนนายสับ เจ้าตัวยืนยัน ว่าไม่ได้เป็นความจริงออกมารับแทน แต่ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 4 แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลหลักฐานหลายอย่าง ที่เป็นประโยชน์ ในการดำเนินคดี บุคคลสำคัญที่เป็นผู้จัดตั้งขบวนการคือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ทำหน้าที่ตั้งแต่ วางแผน ตรวจเช็ค หารถทะเบียน 56 เพื่อมารับผิดแทน จนกระทั่งพบข้อมูลรถยนต์ ของ นายสับ ก่อนไปทาบทาม ว่าจ้างให้ไปรับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ถือว่าเป็นการกระทำเป็นขบวนการ วางแผนแนบเนียนพอสมควร ที่สำคัญจากการตรวจสอบหลักฐาน การสอบปากคำนายสับ เชื่อมั่นว่าเชื่อมโยงถึงครูจอมทรัพย์แน่นอน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกรายขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนญาตินายสับ อีกสามคนมีรายงานว่าจะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
สำหรับบุคคลที่ตำรวจได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไว้เบื้องต้นมี 7 ราย คือ คนที่ 1นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ และยังมีหลักฐานเป็นบุคคลสำคัญในการตั้งขบวนการรับจ้างทำผิดแทน คนที่ 2 คือ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นคนที่ออกมายืนยันว่า เป็นคนขับรถชนตัวจริง คนที่ 3 คือ นางจัน วาปี อายุ 59 ปี ที่เป็นภรรยานายสับ วาปี คนที่ 4 คือ นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี คนที่ 5 คือ นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี คนที่ 6 คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี พยานที่ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์ มีคนขับรถชนเป็นชาย ส่วนคนที่ 7 คือ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นสามีของครูจอมทรัพย์ โดยมีการดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 267 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งมีการออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้ว
แฟ้มภาพ