UNกดดันเมียนมา หวังช่วยเหลือโรฮิงญา/จีนย้ำเข้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มบทบาทเวทีโลก/ทรัมป์ทวีตไม่เคยทำร้ายจิตใจภรรยาทหารที่เสียชีวิต

19 ตุลาคม 2560, 06:03น.


*ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.*



++++นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ย้ำว่า ยูเอ็นจะต้องเร่งเจรจากับรัฐบาลเมียนมาเพื่อให้แก้ไขปัญหาวิกฤติเกี่ยวกับชาวมุสลิมโรฮิงญาโดยเร็ว หลังรัฐบาลเมียนมายังไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเข้าไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา ชาวโรฮิงญาราว 15,000 คนที่หนีเหตุรุนแรงในเมียนมาเมื่อไม่นานมานี้พยายามจะกลับยังหมู่บ้านของพวกเขาอีกครั้ง แต่ก็ไม่กล้าเดินทางกลับและจำเป็นต้องข้ามชายแดนเข้าไปยังบังกลาเทศเนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมาจับกุมหรือทำวิสามัญฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในท้องถิ่นของเมียนมาปฏิเสธ ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถจะรับรองความปลอดภัยให้กับคณะเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ส่งผลให้สิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนมากติดค้างอยู่ในสำนักงานของยูเอ็นในเมียนมา



+++ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในกรุงปักกิ่ง ว่า ประเทศจีนได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่คือก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจของโลก และถึงเวลาแล้วที่ประเทศจีนจะได้เข้าไปมีบทบาทในเวทีโลกให้มากขึ้น และมีส่วนร่วมช่วยเหลือแก่มวลมนุษยชาติให้มากขึ้น ความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของจีน ภายใต้ระบบปกครองสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีน บ่งชี้ว่ามีทางเลือกใหม่ๆสำหรับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน การประชุม เปิดฉากขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง และจะสิ้นสุดลงในวันอังคารหน้า มีคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จัดประชุมทุกๆ 5 ปี เพื่อคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคฯชุดใหม่และกำหนดทิศทางการบริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี หลังเสร็จการประชุมในวันอังคารหน้า ที่ประชุมจะเปิดตัวสมาชิกชุดใหม่ในคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคฯ องค์กรสูงสุดที่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆของจีนที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไป  นายสี ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรค ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2555 คาดว่าที่ประชุมพรรค จะยังคงลงมติให้นายสีทำหน้าที่เลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีของจีนต่อไปอีก 5 ปี



+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งทวีตข้อความปฏิเสธว่า เป็นการกุเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิงและน่าเศร้า  กรณีส.ส.เฟรเดริกา วิลสัน สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐฟลอริดา กล่าวหานายทรัมป์ว่า พูดจากระทบจิตใจของนางเอ็มเยเชีย จอห์นสัน ภรรยาของส.อ.ลา เดวิด จอห์นสัน ที่เสียชีวิตหลังถูกกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในท้องถิ่นดักซุ่มยิงขณะทำหน้าที่รักษาสันติภาพในประเทศในเจอร์ในแอฟริกาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ก่อนหน้านี้ นางวิลสัน กล่าวให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นและสื่อท้องถิ่นอีกหลายแห่งว่า เธอรู้สึกสะเทือนใจมากที่ทราบว่านายทรัมป์โทรศัพท์ไปบอกกับภรรยาหม้ายของทหารที่เสียชีวิตที่อยู่ในอาการเศร้าโศกว่าส.อ.จอห์นสัน ก็ทราบตั้งแต่แรกแล้วว่า การอาสามาทำหน้าที่รับใช้ชาติย่อมจะมีความเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา การสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ย่อมจะทำให้ครอบครัวทหารรู้สึกเสียใจ  ผู้นำสหรัฐฯบอกกับภรรยาหม้ายว่าทุกคนคงจะทราบดีว่าเมื่อต้องเข้าสู่สมรภูมิรบ ก็อาจจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตกลับมาก็เป็นได้ส.ส.วิลสัน กล่าวว่า คำพูดเช่นนี้ของนายทรัมป์ยิ่งจะทำให้นางเอ็มเยเชีย ซึ่งขณะนี้ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 ร้องให้หนักยิ่งขึ้น  ส.ส.วิลสัน ยังวิจารณ์นายทรัมป์ที่ไม่โทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจกับญาติของทหารที่เสียชีวิตทันที่ได้รับรายงานเรื่องนี้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม แต่รอจนกระทั่งโลงศพของส.อ.จอห์นสัน ถูกลำเลียงจากประเทศไนเจอร์ไปถึงรัฐไมอามี สหรัฐฯแล้ว นายทรัมป์จึงได้โทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจกับภรรยาและครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตทั้ง 4 นาย ตำหนินายทรัมป์ว่า ไม่มีคุณลักษณะ ความเข้าใจในปัญหาความทุกข์ร้อนของคนอื่นหรือความสง่างามในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 52.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 58.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันพุธโดย ดาวโจนส์ พุ่งเหนือ 23,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังรายงานผลประกอบการของไอบีเอ็ม ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่อตัวเลขผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ของบริษัทอื่นๆที่เหลือ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 160.16 จุด ปิดที่ 23,157.60 จุด ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ การเติบโตของเศรษฐกิจและความหวังว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะมีความคืบหน้าในมาตรการลดภาษี เป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนตลาดในปีนี้ ส่วนราคาทองคำลดลงจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,283.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างเอกสารจากบริษัทเอ็มเอช กรุ๊ป ทีมกฏหมายระดับนานาชาติของอดีตประธานาธิบดีปัก กึนเฮของเกาหลีใต้เรียกร้องร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ รับรองว่าจะช่วยคุ้มครองสิทธิ์ของน.ส.ปักในฐานะผู้ต้องหาไปจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินว่าเธอกระทำความผิดจริง และจะยื่นเอกสารนี้ให้กับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(โอเอชซีเอชอาร์) ก่อนที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชน จะประชุมพิจารณาตามวาระปกติ อกสารของทนายความของอดีตผู้นำเกาหลีใต้ ระบุว่าน.ส.ปัก เจ็บป่วยเรื้อรังหลายโรค รวมถึงอาการปวดหลังเรื้อรัง โรคข้อเสื่อมที่บริเวณเข่าและข้อต่อไหล่ การทำงานผิดปกติของต่อมหมวกไต ซึ่งพบน้อยมากในคนไข้ทั่วๆไปและมีปัญหาเรื่องภาวะทุพโภชนาการ



ก่อนหน้านี้ น.ส.ปักถูกศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีคำพิพากษาปลดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมีนาคม ต่อมาเธอถูกแจ้งข้อหาความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและรับสินบน ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวเธอระหว่างการสอบสวนต่อไปอีก 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่ทีมทนายความของเธอระบุว่าการไต่สวนคดีของเธอก็ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง



+++องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นพิจารณาระงับทุนสำหรับคณะการจัดการการเลือกตั้งในกัมพูชา หากพรรครัฐบาลประสบความสำเร็จในความพยายามที่จะยุบพรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ของประเทศก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในปีหน้า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ปราบปรามบรรดาผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์พรรค รวมทั้งนักการเมือง สื่ออิสระ และหน่วยงานเอกชน ขณะที่สมาชิกรัฐสภาของพรรคฝ่ายค้านเกือบครึ่งหนึ่งต้องหลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่เดือนก.ย. ด้วยความหวาดกลัวการจับกุม  ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังรัฐบาลยื่นฟ้องศาลร้องยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) นายแกม สุขะ หัวหน้าพรรค CNRP ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 3 ก.ย. และถูกตั้งข้อหาทรยศชาติหลังรัฐบาลอ้างว่าแกม สุขะ สมรู้ร่วมคิดกับที่ปรึกษาต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาล

ข่าวทั้งหมด

X