สตช.พร้อมดูความปลอดภัยพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ/สหรัฐรอต้อนรับนายกฯไทย/ออกหมายจับนศ.อีก3คน

09 สิงหาคม 2560, 08:43น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



+++การเตรียมความพร้อมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ  โดยภายหลังการประชุม พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการ กล่าวว่า ได้มีหารือถึงการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อให้งานพระราชพิธีที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งในเดือนตุลาคมทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม และตรวจสอบความเรียบร้อยพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าร่วมงานและจะมีการบูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี ทั้ง ทางรถยนต์ ทางเรือและรถไฟ สามารถเดินทางได้ฟรี ซึ่งภาพรวมขณะนี้มีความพร้อมแล้วกว่าร้อยละ 90แล้ว



+++สำหรับแขกวีไอพีและบุคคลสำคัญต่างประเทศที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธี รองผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทราบมาว่ามีหลายประเทศจะเข้าร่วม ยืนยันว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามหลักสากล โดยครั้งนี้จะใช้กำลังพล ทั้งกำลังตำรวจและหน่วยงานต่างๆรวมกว่า 30,000คน อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานพระราชพิธีที่สำคัญครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ



+++การหารือกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา  นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์และความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาที่มาอย่างยาวนาน  โดยได้หารือถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน  นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ส่วนประเด็นการต่อต้านการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างสูงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง และได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติจนถึงปัจจุบันในภูมิภาคและของโลก เช่น ประเด็นทะเลจีนใต้ และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ไทยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุน และเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะคลี่คลายสถานการณ์เพื่อความสันติสุขในภูมิภาค รวมทั้งให้ปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ  ในด้านสถานการณ์การเมืองไทย นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นและดำเนินการตาม Roadmap ที่วางไว้เพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและยั่งยืน ส่วนการเดินทางเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนั้น  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ หวังว่า จะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในเร็วๆนี้ โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม



++++ นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ได้เปิดเผยความคืบหน้าการ การกู้ซากรถยนต์เช่าของ น.ส.ทิวาดี แสดงสุริยฤทธิ์ อายุ 24 ปี และนายภคพล ชัยรัตนทรงพร อายุ 28 ปี สองนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ประสบอุบัติเหตุ ตกเหวลึก 640 ฟุต บริเวณเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐได้ลงไปสำรวจจุดที่รถตกเหว และพบศพนักศึกษาทั้งสองคนภายในรถแล้ว ส่วนกู้ซากรถขึ้นมาคาดว่าจะดำเนินการในวันที่ 9 ส.ค.นี้ แต่ต้องประเมินสภาพอากาศก่อน   ขณะที่ นางสุพิน ชัยรัตนทรงพร มารดาของหนึ่งในนักศึกษาให้สัมภาษณ์กับเฟซบุ๊ก SiamTownUS ตอนหนึ่ง "ส่วนตัวมีความคิดอยู่ตลอดว่า เราเป็นคนต่างชาติไม่ใช่คนประเทศเขา ทางครอบครัวยินดีที่จะให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นของสหรัฐเพื่อให้นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้น และกระตุ้นให้คิดถึงจิตใจผู้ประสบเหตุ อยากทราบว่าถ้าเป็นคนประเทศเขาจะยืดเยื้อขนาดนี้หรือไม่



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้องค์การการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมรถโดยสาร (รถเมล์) ปรับอากาศ ประจำปีงบประมาณ 2561 จำนวน 2,833 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเชื้อเพลิง 1,905.543 ล้านบาท และค่าเหมาซ่อมจำนวน 927.541 ล้านบาท เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินและทำให้ ขสมก. มีกระแสเงินสดเพียงพอ โดยไม่กระทบต่อคุณภาพการให้บริการประชาชน



+++การกำหนดมาตรการเข้มงวดในการใช้รถป้ายแดง เพื่อป้องกันการนำรถไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า รถป้ายแดง คือ รถที่ยังไม่จดทะเบียน เป็นเพียงเครื่องหมายพิเศษที่กรมการขนส่งทางบก ออกให้แก่บริษัทจำหน่ายรถอนุญาตให้ใช้เฉพาะกรณี เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมเท่านั้น การเคลื่อนย้ายรถแต่ละครั้ง ต้องใช้คู่กับสมุดคู่มือประจำรถและใบอนุญาตให้ใช้รถ หรือได้รับอนุญาตเป็นครั้งคราว ในกรณีที่ผู้ซื้อรถ นำรถป้ายแดงออกมาขับใช้งานบนถนน เท่ากับการนำรถที่ยังไม่จดทะเบียนมาใช้ มีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท



+++ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกให้ป้ายแดงกับผู้ขายจำนวนกว่า 3,000 ราย จำนวน 400,000 แผ่น ขอให้รถยนต์ใหม่ทุกคันจดทะเบียนให้เสร็จสิ้นก่อนใช้งานบนท้องถนน โดยให้ผู้ซื้อรถต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องภายใน 60 วัน นับจากวันรับรถ ซึ่งจะเริ่มมาตรการในวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2560 และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 รถใหม่ทุกคันจะต้องจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับจากวันรับรถ โดยยืนยันว่าขั้นตอนการจดทะเบียนรถใหม่ สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดียว ด้านพลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การใช้รถป้ายแดงหรือรถที่ยังไม่จดทะเบียน คือช่องว่างที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบชื่อเจ้าของรถที่แท้จริงได้ ทำให้ที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพ จะนำรถป้ายแดงมาใช้ก่ออาชญากรรม ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่พบว่ามีเต็นท์รถมือสองนำป้ายแดงมาสวม เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้การใช้ป้ายแดงปลอม มีความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษจำคุก 6 เดือน - 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท



+++เหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษา 2 สถาบัน ทำให้นายชานน รุ่งเรือง นักศึกษา”อุเทนถวาย”ถูกแทงด้วยมีดที่ช่องท้องเสียชีวิต บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อ 1 สิงหาคมพันตำรวจเอกภพธร จิตต์หมื่น ผู้กำกับ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 คน ตามภาพวงจรปิด ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต  และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ทั้ง 3 คนเป็นนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวัน ร่วมก่อเหตุกับนายศราวุทธ โซ๊ะประสิทธิ์  นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คนใช้มีดแทงผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาท้องที่ สน.บึงกุ่ม เมื่อปี 2551 และศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาจำคุก 7 ปี 6 เดือน และเมื่อปี 2558 ก่อเหตุทะเลาะวิวาทหน้าห้างบิ๊กซีพระราม 1 โดยถูกสั่งปรับ



+++หลัง2 วัยรุ่น ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำผู้เสียหาย บริเวณถนนวุฒากาศ แล้วขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนี จนเกิดอุบัติเหตุชนขอบสะพานกลับรถ  บนถนนพระราม 2 ทำให้นายบริสุทธิ์ สุขเพีย อายุ 22 ปี คนขับขี่ เสียชีวิต ขณะที่นายวีรพงษ์ เนธิบุตร อายุ 20 ปี คนซ้อนได้รับบาดเจ็บสาหัส  ซึ่งต่อมาญาติทั้ง 2 คนติดใจ ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และน่าจะถูกคนจับโยนลงมาจากสะพาน โดยสงสัยพลเมืองดีที่ขี่รถไล่ตามว่าเป็นผู้ก่อเหตุ พลตำรวจตรีสัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 เปิดเผยว่า ขณะที่ การตรวจสอบ จุดเกิดเหตุ พบมีร่องรอยครูด ที่ทางโค้งบนสะพานกลับรถ  แม้บริเวณที่กลับรถจะไม่มีกล้องวงจรปิดแต่ก็สรุปได้ชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตและคนได้รับบาดเจ็บพยายาม ขี่รถหลบหนีด้วยความเร็ว  จนเสียหลักพุ่งชนขอบสะพานกลับรถ  แล้วตกลงมาเอง หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนทำความเข้าใจกับญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ  ก่อนดำเนินคดีกับผู้บาดเจ็บตามกฎหมายต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X