ศาลฎีกา พิพากษากลับจำคุกจตุพร 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นอภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชน

20 กรกฎาคม 2560, 11:14น.


ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332 หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ โจทก์ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นฎีกาคดีอีกและศาลก็ได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาในวันนี้ ปรากฎว่า ศาลฎีกา พิพากษากลับให้จำคุกนายจตุพร 1 ปี ไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 7 วัน



นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ระบุว่า วันที่ 10 พฤษภาคม 2552 นายจตุพร จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชน จำนวนกว่าหมื่นคน ใส่ความทำนองว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ เป็นรัฐบาลสั่งทหารให้ไปยิงประชาชน ใส่ร้ายประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง โจทก์จะต้องถูกประหารชีวิต ข้อหาฆ่าคนตาย และข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จากประชาชนที่ได้ยินได้ฟังการปราศรัยของจำเลย เหตุเกิดที่วัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งนายจตุพร จำเลยให้การปฏิเสธ



ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2555 ให้ยกฟ้องจำเลย เนื่องจากเห็นว่าทางนำสืบรับได้ว่าเป็นกรณีที่ได้มีการปราศรัย แถลงข่าว วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นการตอบโต้ทางการเมืองทางวิธีทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท



ต่อมานายอภิสิทธิ์ โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริง ที่เป็นมูลเหตุที่นำมาสู่การกล่าวหมิ่นประมาท ที่ไม่ใช่เพียงการโต้ตอบทางการเมือง มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องเช่นกัน เนื่องจากรูปคดีมีเหตุผลที่ทำให้นายจตุพร จำเลย เชื่อว่าน่าจะมีมูลเหตุในเรื่องที่ได้กล่าวถึงจริง ซึ่งการกล่าวของจำเลยเป็นการปกป้องตนหรือป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (1) การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X