*พล.อ.ชวลิตเข้ากราบนมัสการสมเด็จช่วงย้ำไม่มีนัยยะใดๆชี้คดีธัมมชโยระวังมือที่สาม*

01 มิถุนายน 2559, 10:13น.


ก่อนการเข้าพบเพื่อกราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งใจจะมาพบกับสมเด็จช่วง ตั้งแต่วันครบรอบวันเกิดตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เพื่อขอบารมีของสมเด็จช่วงให้มีความสุข แข็งแรง ทำงานเพื่อบ้านเมือง และขอให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า หลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ให้คนไทยรักกัน โดยการเข้าพบสมเด็จช่วงฯ ในครั้งนี้ไม่ได้มีนัยยะ แต่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมือง และมองว่าเรื่องการจับกุม พระธัมมชโย เจ้าอาวาสพระธรรมกายไม่ใช่ความวุ่นวายและเชื่อว่ากรมสอบสวนพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รู้หน้าที่ เป็นเรื่องของสงฆ์ที่จะจัดการกันเองได้ ซึ่งหากเป็นเรื่องของความมั่นคงก็ควรจะเข้าไปดูแล แต่ควรจะมีการจัดการที่ดี เพราะมีมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สงฆ์ ดูแลอยู่โดยขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ดูอยู่ห่างๆระวังผู้ที่ไม่หวังดีหรือ มือที่สามสร้างสถานการณ์  พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ใช่พวกของพระธัมมชโย หรือ หลวงปู่พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม



อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่กฎหมายสูงสุด แต่สิ่งที่สูงสุดคือความอยู่รอดของชาติ จึงอยากให้ข้อคิดว่า พระพุทธศาสนาเป็นองค์ประกอบสำคัญของชาติ หากมีสิ่งที่มากระทบจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศซึ่งถือเป็นเรื่องของทุกคน หากเราจะปฏิบัติตามกฎหมายทำให้สิ่งสำคัญหรือความเป็นชาติสูญเสียไปเราจะไม่มีชาติ ซึ่งจะมีกฎหมายไว้ทำไม จึงเป็นสิ่งที่อยากเตือนให้เข้าใจในเรื่องนี้



ส่วนคำสั่ง การผ่อนปรนคำสั่ง คสช. ให้นักการเมืองและนักวิชาการสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ยกเว้นผู้ที่มีคดี พล.อ.ชวลิต มองว่า  คสช. และ นายกฯพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ก็เห็นใจและเข้าใจ ซึ่งเมื่อผ่อนปรนคำสั่งก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ส่วนตัวหากจะเดินทางออกนอกประเทศต้องขออนุญาตศาลก่อนทุกครั้ง เพราะมีคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปี 2551 ส่วนเรื่องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จะถอนฟ้อง ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่าความยุติธรรมต้องมี เพราะสัจจะธรรมเป็นอย่างนั้น

ข่าวทั้งหมด

X