อัพเดท เชียงใหม่ -กทม.ค่าฝุ่น PM2.5 ติดอันดับ 4 และ 5 ของโลก

19 เมษายน 2567, 16:20น.


         สถานการณ์ฝุ่นในประเทศไทย เมื่อเวลา 15.49 น.เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลกพบว่า  จังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นเป็น อันดับ  4 ของโลกตามด้วยกรุงเทพมหานคร เป็นอันดับ 5 อยู่ที่ระดับ 139 และ 134 AQI  ขณะที่อันดับ 1 ได้แก่ กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ดัชนีคุณภาพอากาศ 159 AQI และอันดับ 2 กินซาชา คองโก 154  AQI และอันดับ 3  คือ ฮานอย เวียดนาม ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 152 AQI 





          ด้านกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรม ควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 19  เมษายน 2567 พบ 10 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ลำพูน 109.6 ไมโครกรัม แม่ฮ่องสอน 108 ไมโครกรัม ลำปาง 107.9  ไมโครกรัม เชียงใหม่ 102.9 ไมโครกรัม น่าน 101.1 ไมโครกรัม แพร่ 95 ไมโครกรัม  พะเยา 94.9 ไมโครกรัม เชียงราย 84.3 ไมโคกรัม อุตรดิตถ์ 79.3 ไมโครกรัม นครพนม 75.7 ไมโครกรัม ในขณะที่อีก  28 จังหวัดโซนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังจมฝุ่น และมีค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม  



          สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่พบคุณภาพอากาศในระดับปานกลาง แต่มี 1 เขตพื้นที่มี ค่าฝุ่นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ  หนองแขม 42.6 ไมโครกรัม



          ส่วนข้อมูลจุดความร้อนเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,262 จุด ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบในป่าอนุรักษ์ 413 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 395 จุด พื้นที่เกษตร 240 จุด ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 104 จุด เขต สปก. 99 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ แม่ฮ่องสอน 163 จุด ในขณะที่ข้อมูลจากดาวเทียมพบ 5 พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าซึ่งต้องเฝ้าระวังสูงสุดในสุดสัปดาห์นี้ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ และลำปาง



          ส่วนประเทศเพื่อนบ้านยังพบจุดความร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้อยู่ที่ประเทศลาว 2,666 จุด ตามด้วยพม่า 1,316 จุด ไทย 1,262 จุด กัมพูชา 628 จุด เวียดนาม 296 จุด และมาเลเชีย 20 จุด



 

ข่าวทั้งหมด

X