นายสำรวย ขุนเทพ ผู้ขับแท็กซี่ ทะเบียน ทฬ6752 ได้เปิดเผยเรื่องราวว่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 ม.ค.64 ตนรับผู้โดยสารเป็นหญิงชราอายุกว่า 80 ปี จากย่านปิ่นเกล้าฯ โดยแจ้งว่าให้ไปส่งที่พัทยาเพราะนัดเพื่อนเอาไว้ แต่เมื่อขับรถมาถึงชายหาดพัทยาไม่พบเพื่อนจึงให้ไปส่งที่ท่าเรือข้ามไปเกาะสีชัง แต่ตนเห็นว่าช่วงนี้มีสถานการณ์โควิด19 จะไม่มีเรือจะข้ามไปที่เกาะ และพยายามชวนหญิงชรากลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะเห็นว่าตลอดทางที่คุยกันบางครั้งพูดจาวกวน และเดินทางมาคนเดียวพร้อมพกเงินสดจำนวนมาก กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยแต่หญิงชรากลับให้ตนไปส่งที่ชายหาดบางแสนอ้างว่าจะหาที่พักนอนค้างคืน ช่วงนั้นรู้สึกเป็นห่วงจึงพยายามขับรถวนหาตำรวจแต่ก็ไม่พบจึงจำเป็นต้องส่งหญิงชราที่ชายหาดบางแสน หลังจากนั้นจึงขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงโทรศัพท์มาที่ JS100 เพื่อให้ช่วยแจ้งตำรวจ และอยากให้ช่วยตรวจสอบที่ชายหาดบางแสนเผื่อมีใครพบหญิงชราและช่วยเหลือเอาไว้
.jpg)
จากนั้น JS100 จึงตรวจสอบไปที่สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ก็พบว่าหญิงชราได้พยายามเดินลงทะเลเพื่อหวังจะฆ่าตัวตาย แต่โชคดีมีชาวต่างชาติพบเหตุการณ์จึงรีบวิ่งลงไปช่วยเหลือและนำร่างขึ้นมาในสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงปฐมพยาบาลและรีบนำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา โดยพบว่าในกระเป๋าของหญิงชรานั้นไม่มีเอกสารติดตัวเลยนอกจากเงินสดจำนวนมาก
จนกระทั่งเวลา 19.00น. จึงทราบว่าบุตรชายของหญิงชราได้มาแจ้งความที่สน. บางยี่ขันว่าแม่ของตนหายออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยพยายามออกตามหาทั้งวันจนถึงช่วงค่ำจึงตัดสินใจแจ้งความตำรวจ หลังทราบข่าวบุตรชายและครอบครัวจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลฯ เพื่อแสดงตัวว่าเป็นญาติ โดยแพทย์แจ้งว่าหญิงชราพ้นขีดอันตรายแล้ว
Cr.ศูนย์วิทยุ แสนสุข
สำหรับสาเหตุในครั้งนี้ บุตรชายคาดว่าเกิดจากแม่ของตนต้องพักอยู่กับพ่อที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวน จึงเกิดความเครียดสะสมและเคยอยากเดินทางไปที่หาดบางแสนแล้ว 1 ครั้ง โดยครอบครัวก็รับทราบปัญหานี้และพยายามดูแลด้วยการจ้างคนดูแลถึง 2 คน แต่วันนี้คนดูแลน่าจะเผลอแม่ถึงได้หนีออกจากบ้านมาได้ โดยหลังจากนี้ครอบครัวจะดูแลแม่อย่างระมัดระวังเพิ่มขึ้น