ในช่วงที่วิกฤต COVID – 19 แพร่ระบาดและยังไม่มีทีท่าลดลง หลายๆ คนที่มีความเสี่ยง หรือต้องการตรวจหาเชื้อก็คงจะรีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลนั้นๆ ซึ่งทางโรงพยาบาลก็จะมีวิธการตรวจด้วยการแยกจมูก (Swab test) แต่ทุกคนรู้หรือไม่? ว่านอกจากการแยงจมูกเพื่อตรวจหาเชื้อแล้วยังมีวิธีอื่นอีกด้วย ว่าแต่จะใช้วิธีไหนได้บ้าง ให้ ศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ภาควิชาอายุรศาสตร์ออกมาเป็นผู้อธิบายเกี่ยวกับวิธีตรวจ COVID-19 สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกันดีกว่า
วิธีตรวจหาเชื้อ COVID – 19 มีอะไรบ้าง?
วิธีที่ถือว่าเป็นมาตรฐานที่สุดก็คือการ “แยงจมูก” โดยใช้ไม้ก้านยาวๆ พันสำลี แล้วแยงเข้าจมูกไปจนถึงผนังจมูกด้านใน ซึ่งต้องชนและหมุนเพื่อให้ได้เซลล์มาตรวจ โรงพยาบาลบางแห่งก็จะทำจมูกอย่างเดียว บางแห่งทำทั้งจมูกและลำคอ ทำให้มีโอกาสเจอเชื้อสูงขึ้น แต่หากตรวจที่เดียว อวัยวะเดียว แนะนำให้ทำกับจมูก เพราะการทำเฉพาะลำคอจะทำให้ได้รับเชื้อมาตรวจไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผลตรวจเป็นลบลวง (จริงๆ เป็นบวกแต่พอได้เชื้อมาตรวจน้อยผลเลยออกเป็นลบ)
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆ เช่น ตรวจจากน้ำลาย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการบ้วนออกมาแล้วตรวจ โดยโรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถทำได้ แต่การรู้ผลอาจจะช้ากว่าการแยงจมูก จึงไม่แนะนำให้เป็นวิธีมาตรฐาน
แล้วเราสามารถเจาะเลือดตรวจ COVID – 19 ได้ไหม?
การเจาะเลือดตรวจเชื้อ COVID – 19 เป็นการทำเพื่อตรวจหาภูมิต้านทาน ซึ่งก็ยังไม่เป็นวิธีตรวจมาตรฐานในการตรวจหา COVID – 19 อีกเช่นกัน เนื่องจากถ้าเราเพิ่งติดเชื้อมา ภูมิต้านทานจะยังไม่ขึ้น เช่น ติดเชื้อมา 2 – 3 วัน ภูมิต้านทานอาจจะยังไม่ขึ้น ซึ่งต้องรอประมาณ 7 – 8 วันไปแล้วถึงจะมีภูมิต้านทาน ดังนั้น การตรวจเลือดเพื่อยืนยันการเป็น COVID – 19 จึงจะใช้ได้ในบางกรณีเท่านั้น ไม่ใช่วินิจฉัยแบบเฉียบพลัน อย่าง อยากรู้เลยว่าเป็นหรือไม่ ตอนนี้ ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้นั่นเอง ดังนั้น การแยงจมูกจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ตรวจ COVID – 19 แล้วรอนานไหม?
โดยทั่วไปแล้วจะไม่นานเท่าไร อย่างทางโรงพยาบาลรามาธิบดีก็ได้ทำถี่ขึ้นเรื่อยๆ คือ ตรวจตอนเช้ารู้ผลตอนเย็นได้เลย หรือบางโรงพยาบาลก็วันรุ่งขึ้นรู้ผลเลย
การเว้นระยะห่างทางสังคมช่วยลดการติด หรือแพร่กระจายเชื้อ COVID – 19 ที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ก็คือ ยืนหรือนั่งให้ห่างกัน 1.5 – 2 เมตร งดการรวมตัวในสถานศึกษา ที่ทำงาน หรือสถานบันเทิงต่างๆ หากกินอาหารก็ยืนหนึ่งเลยคนเดียวไปเลย หลีกเลี่ยงการกินร่วมกับผู้อื่น เปลี่ยนมาพบปะทางธุรกิจผ่านออนไลน์ หรือใช้มือถือแทน หรือบางบริษัทมี Work Form Home ส่วนของโรงเรียนก็มีการเรียนการสอนออนไลน์ การประชุมด้วยกันต้องงดไปก่อน เดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ สำคัญสุดขาดไม่ได้เลย ได้แก่ สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือสบู่บ่อยๆ
ข้อมูล : รามาแชนแนล Rama Channel