(15ม.ค.64) สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร เดินหน้าดำเนินโครงการ 100 วัน กำจัดซากรถจอดทิ้ง โดยให้สำนักงานเขตสำรวจและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจากการสำรวจซากรถทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบซากรถจำนวน 850 คัน ดำเนินการเคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 765 คัน แบ่งเป็นกรุงเทพมหานครดำเนินการเคลื่อนย้าย จำนวน 64 คัน และเจ้าของเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 701 คัน คงเหลือซากรถทั้งสิ้น จำนวน 85 คัน ซึ่งตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากยานยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของจะนำไปจัดเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป


ทางด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ ณ บริเวณซอยรามอินทรา 13 แยก 2 เปิดเผยว่า ในพื้นที่เขตบางเขนนั้นจากการสำรวจช่วงเดือน ก.ค.63 ถึง 31 ธ.ค.63 พบซากรถยนต์จำนวน 35 คัน เคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 26 คัน อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย (ติดประกาศ) จำนวน 2 คัน อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายก่อนการเคลื่อนย้าย 6 คัน ในวันนี้จึงมีซากรถที่ต้องเคลื่อนย้ายในพื้นที่เขตบางเขน จำนวน 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่จะทำเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ดังกล่าวไปเก็บบริเวณที่สำนักงานเขตบางเขนจัดเตรียมไว้เป็นการชั่วคราว


ทั้งนี้ กทม. ได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อจัดซื้อรถยก รถลาก พร้อมอุปกรณ์ไว้ประจำแต่ละกลุ่มเขตให้ครบทั้ง 6 กลุ่มเขต ส่วนสถานที่จัดเก็บซากรถเบื้องต้นได้จัดหาพื้นที่ในเขตประเวศ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างรั้ว ติดตั้งกล้อง CCTV และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย เนื่องจากซากรถที่จัดเก็บยังเป็นของกลางทางคดีอยู่ สำหรับอัตราค่าปรับตาม พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งวางหรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท