ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนคนสุขภาพดี ทำบุญบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย ในช่วงหยุดยาว วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน 2563 ตามสถานที่รับบริจาคโลหิตใกล้บ้าน
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากมติ ครม.กำหนดให้วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน 2563 (รวม 4 วัน) เป็นวันหยุดราชการพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปท่องเที่ยว หรือกลับบ้านต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก และมักจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงเป็นที่มาของความต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งโรงพยาบาลทั่วประเทศจำเป็นต้องสำรองโลหิต เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างทันท่วงที และทุกช่วงเวลา
แต่ยังคงมีประชาชนชนส่วนหนึ่ง ถือโอกาสในช่วงหยุดยาว พักผ่อนอยู่กับบ้าน หรือไปทำบุญเพื่อความสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว การบริจาคโลหิต นับได้ว่าเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ และเป็นบุญกุศลแก่ผู้ให้ เพราะเป็นการสละโลหิตในร่างกายของตนเอง เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วย โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ
จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี ในช่วงหยุดยาว วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน นี้ หากไม่รู้จะไปไหน ร่วมทำบุญบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย ตามสถานที่รับบริจาคโลหิตใกล้บ้าน ดังนี้
1. ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์
2. ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมาสถานีกาชาดที่ 11 วิเศษนิยม บางแค (ชั้น 3)
3. เดอะมอลล์ บางแค (ชั้น P)
4. เดอะมอลล์ บางกะปิ (ชั้น 3 ทางออกลานจอดรถ ชั้น 3A)
5. เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (ชั้น 5 โซนศูนย์ราชการ)
6. บ้านทรงไทย ย่านวงศ์สว่าง (ชั้น 1)
ในส่วนภูมิภาคบริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครผู้บริจาคโลหิต คลิก
ดาวน์โหลดแบบคัดกรองตนเองเพื่อประเมินความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 คลิก
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มยินยอมผู้ของปกครองให้บริจาคโลหิต (สำหรับผู้ที่อายุ 17 ปีบริบูรณ์) คลิก
วันเวลาเปิดรับบริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์ คลิก
ตารางหน่วยเคลื่อนที่บริจาคโลหิต คลิก
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต คลิก
มาตรการป้องกันการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ COVID-19 ทางโลหิต ฉบับที่ 4 คลิก