!-- AdAsia Headcode -->

เกลือไอโอดีน ความห่วงใยของพ่อหลวง

15 ตุลาคม 2563, 14:40น.


   การรับประทานเกลือมากเกินไปเป็นโทษต่อร่างกาย แต่หากร่างกายขาด “สารไอโอดีน” ที่อยู่ในเกลือ ก็จะเกิดโรคได้ โดยเฉพาะในเด็กที่จำเป็นต้องได้รับ “ไอโอดีน” เพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ หากขาด “ไอโอดีน” ก็จะทำให้ป่วยเป็นโรคคอพอกได้ค่ะ

  ในการเสด็จเยี่ยมราษฎรยังท้องถิ่นทุรกันดาร ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทอดพระเนตรเห็นปัญหาความเจ็บป่วยเนื่องจากการขาดสารไอโอดีน ของชาวบ้านในหลายพื้นที่ จึงทรงริเริ่มโครงการนำร่องเกลือเสริมไอโอดีนขึ้น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ ที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ และมีพระราชดำริถึงการสำรวจ “เส้นทางเกลือ” เพื่อศึกษาหาแหล่งผลิตเกลือ ที่จะนำไอโอดีนไปผสมกับเกลือในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าไปเติมสารไอโอดีนในเกลือได้ ทรงแนะนำให้นำเกลือผสมไอโอดีนเข้าไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้านแทน นอกจากนี้ ยังทรงสนับสนุนการพัฒนาเครื่องผลิตเกลือผสมไอโอดีนของวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ต่อมาทางวิทยาลัยฯ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเพื่อให้พระองค์พระราชทานแก่ราษฎรในจังหวัดภาคเหนือที่ประสบปัญหาต่อไป

  ทั้งนี้ เกลือที่วางจำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่มี ๓ ชนิด คือ ๑.เกลือสินเธาว์ เป็นเกลือที่ไม่มีสารไอโอดีนเลย ๒.เกลือทะเล มีสารไอโอดีนในปริมาณน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และ ๓. เกลืออนามัย เป็นเกลือสินเธาว์ หรือเกลือสมุทร ที่นำมาเติมสารไอโอดีนลงไป ในอัตรา ๕๐ ส่วนต่อเกลือ ๑ ล้านส่วน

   และจากการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ.๒๕๔๐ สภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญทองแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการที่ทรงริเริ่มดูแล และส่งเสริมสุขอนามัยของราษฎรให้ปลอดจากโรคขาดสารไอโอดีน นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับรางวัลนี้

    และเป็นบุญของคนไทย ที่มีพระราชาผู้ทรงห่วงใยความทุกข์ยากของประชาชนในทุกด้าน แม้เพียงเรื่องน้อยนิดเท่า “เม็ดเกลือ”

X