ความเชื่อเมื่อก้างปลาติดคอ “กินกล้วย - กินข้าวปั้น - ดื่มน้ำมะนาว” ช่วยได้จริงหรือ?

05 ตุลาคม 2563, 16:15น.


            “ก้างปลาติดคอก็กินข้าวปั้นก้อนโตๆ ไปช่วยดันซิ” เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเมื่อกินปลาแล้วเกิดก้างติดคอเป็นต้องนำความเชื่อหาอะไรก้อนโตๆ กลืนลงไปหวังช่วยดันก้างให้หลุดออก หรือดื่มเครื่องดื่มที่ออกฤทธิ์เป็นกรดเพื่อช่วยกัดกร่อนจนก้างหลุด แต่ทว่าความเชื่อเหล่านี้จะแล้วช่วยได้จริงๆ หรือ? และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องให้อ.พญ.วิจิตรา เลี้ยงสว่างวงศ์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้อธิบายกันดีกว่า

            ความเชื่อเมื่อก้างปลาติดคอช่วยได้จริงหรือ?


            การที่เราเคยได้ยินว่าให้กินกล้วย ข้าวปั้น ขนมมาชเมลโล่เข้าไปเมื่อก้างติดคอจะช่วยดันก้าง หรือเรื่องน้ำมะนาว น้ำสับปะรดที่ดื่มเข้าไปจะออกฤทธิ์กัดกร่อนจนก้างหลุดออกนั้นจริง ๆ แล้ว “ไม่สามารถช่วยได้” ซึ่งการที่เรากินกล้วย ข้าวปั้น ขนมมาชเมลโล่ก้อนใหญ่ๆ จะยิ่งทำให้ก้างปลาที่ติดคอบาดลึกและฝังบริเวณคอมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสิ่งที่เรากินจะไปกดทับก้างปลา ส่วนน้ำมะนาว หรือน้ำสับปะรดที่เป็นกรดเมื่อดื่มเข้าไปจะทำให้บาดแผลบริเวณก้างปลาหรือรอยจากก้างปลาเดิมอักเสบหรือใหญ่ขึ้นได้ จึงไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

            แล้วเราจะมีวิธีปฐมพยาบาลอย่างไรได้เมื่อก้างติดคอ?


            วิธีปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกก้างปลาติดคอเบื้องต้นให้ดื่มน้ำเปล่ากลั้วคอสักแก้วกรณีที่ก้างขนาดเล็ก ปักไม่ลึก ไม่ซับซ้อนในซอกอาจช่วยให้ก้างหลุดออกไปได้ หากไม่ดีขึ้นหรือเจ็บบริเวณก้างติดคอ ก้างไม่หลุดให้รีบมาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด และนำก้างปลาติดคอออก เพราะก้างที่ติดคออาจมีขนาดใหญ่ ทิ่มแทงอวัยวะส่วนสำคัญ เช่น โคนลิ้น ต่อมทอนซิล หลอดอาหาร เป็นต้น กลายเป็นอันตรายต่อร่างกาย



            เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าใครที่เกิดกินปลาแล้วก้างติดคอจะปฐมพยาบาลตัวเองตามคำแนะนำเบื้องต้นอย่างถูกต้องเหมาะสม และขอย้ำอีกครั้งว่าหากปฐมพยาบาลตามคำแนะนำแล้วไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูกทันที ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายที่รุนแรงจนเกินไป



ข้อมูล : รามาแชนแนล Rama Channel







 



 

X