กรมอนามัยแนะนำ! เลี่ยงกิน “อาหารอุ่นซ้ำซาก – ต้มตุ๋น” ที่นานเกินกว่า 4 ชม. คุณค่าโภชนาการลด เสี่ยงอาหารเป็นพิษ

01 ตุลาคม 2563, 15:28น.


            จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวหญิงสาวกินปอเปี๊ยะที่เก็บไว้ในตู้เย็นนานกว่า 3 วัน ก่อนจะเกิดอาการปวดท้องและท้องเสียอย่างรุนแรง สุดท้ายเสียชีวิตในห้องน้ำนั้น สาเหตุคาดว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษท้องร่วงอย่างรุนแรงและอาเจียนจนร่างกายขาดน้ำเฉียบพลันทำให้ช็อกและเสียชีวิต ทำเอาหลายคนตกอกตกใจเพราะโดยปกติแล้วก็มักจะเก็บอาหารไว้ค้างคืนก่อนจะนำมาอุ่นกินต่อ แต่ทว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลยอีกต่อไป ด้วยความห่วงใยจากกรมอนามัยจึงได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับผลการกินอาหารค้างคืน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง

            “กินอาหารค้างคืน
คุณค่าทางโภชนาการลด เสี่ยงอาหารเป็นพิษ

            โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อทุกคนกินอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่ปรุงประกอบในปริมาณมากไม่หมดก็มักจะนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วนำไปอุ่นรับประทานในมื้อต่อไป โดยอาหารที่มีการอุ่นซ้ำซากหรือต้มตุ๋นเป็นระยะเวลานานเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป จะมีโอกาสทำให้คุณค่าด้านโภชนาการลดลง จึงควรเลือกซื้อหรือปรุงอาหารแต่พอกินในแต่ะละมื้อเพราะอาหารที่ปรุงสุกใหม่คุณค่าทางโภชนาการจะมีมากกว่าอาหารที่ผ่านการอุ่นหลายๆ ครั้ง และไม่เสี่ยงต่อการบูดเสีย ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงอาหารเป็นพิษตามมาด้วย

            อาหารประเภทผัก – กะทิ อย่าเหลือเก็บค้างคืน


            สำหรับอาหารประเภทผักสด ผัดผัก ผักลวก นึ่ง ต้ม ถ้าเหลือแล้วนำไปเก็บไว้รับประทานมื้อต่อไปคุณค่าทางโภชนาการของผักก็จะลดลงและรสชาติจะเปลี่ยนไป ซึ่งหากมีการเก็บรักษาไม่ดีพอ อุณหภูมิในการเก็บไม่เหมาะสม จุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนในระหว่างเก็บก็จะทำให้ท้องเสียหรือมีอาการรุนแรงถึงขั้นอาหารเป็นพิษได้ ดังนั้น จึงควรกินผักสดเป็นประจำอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี เพราะในผักมีวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้การกินอาหารประเภทกะทิค้างคืนที่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อสัตว์ หากมีการเก็บรักษาไม่ดีพอหรืออุ่นด้วยความร้อนไม่ทั่วถึง อาจทำให้เน่าเสียได้เช่นเดียวกัน

            
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนจะเลือกซื้อหรือปรุงอาหารแต่พอกินในแต่ะละมื้อ พยายามอย่าเหลือเก็บ เพราะนอกจากจะไม่ได้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ก็ยังเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ พาให้เกิดผลเสียต่อร่างกายดีไม่ดีถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว และอย่าลืม! เลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกันที่ดีต่อร่างกาย



 



ข้อมูล : กรมอนามัย





 



 

X