คมนาคม-เกษตรฯ 'เดินหน้านำยางพาราปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน' ภาคกลาง จ.อุทัยธานี

30 กันยายน 2563, 17:06น.


     กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้า"โครงการนำยางพารามาปรับปรุงความปลอดภัยทางถนน" โดยนำยางพารามาเป็นส่วนผสมในการทำเครื่องกั้นถนนครอบวัสดุยางพารา และหลักนำทางยางธรรมชาติ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่เริ่มโครงการฯ ที่จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดที่ 6 ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีเกษตรกรชาวสวนยางและกลุ่มสหกรณ์ที่เข้มแข็ง




     นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้กำหนดแผนการดำเนินโครงการ ดังกล่าวในปีงบประมาณ 2563-2565 มีปริมาณการใช้ยางพารา จำนวน 1,007,951 ตัน และจะนำ 2 ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว มาใช้ติดตั้งบนถนนของ ทล. และ ทช. ระยะทางรวม 12,282 กิโลเมตร คิดเป็นผลประโยชน์ที่เกษตรกรชาวสวน ยางจะได้รับ จำนวน 30,108 ล้านบาท และจะมีการสำรวจตรวจสอบเพื่อเปลี่ยนแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต และหลักนำทางยางธรรมชาติ ทดแทนที่เสื่อมสภาพหรือมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งต้องใช้ยางพาราในทุกๆ ปี ปีละไม่น้อยกว่า 336,000 ตัน ขณะที่ปริมาณการใช้ยางพาราในโครงการดังกล่าว ฯ ในปี 2562 มีปริมาณการใช้น้ำอย่างพาราสดในโครงการของรัฐมากกว่า 129,000 ตัน แต่เมื่อมีโครงการนำร่องการนำยางพารามาผลิตใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยบนท้องถนนใน3เดือนนี้ พบว่า มีปริมาณการใช้ยางพารากว่า 50,000 ตัน ซึ่งถือว่า เป็นปริมาณการใช้ ที่เท่ากับปริมาณในปี 2561




     กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มั่นใจว่าโครงการฯจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านราคาให้แก่ยางพาราเพิ่มขึ้น โดยหลังจากการเริ่มต้นโครงการเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา 1 เดือน  ล่าสุดราคาน้ำยางพารา อยู่กิโลกรัมละ 63  บาท ขณะที่ราคายางก้อนถ้วย มีเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีนิยมผลิตเพื่อทำการขายนั้น ก่อนที่จะมีโครงการราคาเคยตกต่ำถึงกิโลกรัมละ 8 บาท  ก่อนที่จะมีการเริ่มต้นโครงการฯ แต่ ณ วันนี้ ราคายางก้อนถ้วยอยู่ที่กิโลกรัมละ 22 บาท โดยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป้าหมายที่จะผลักดันให้ราคายางก้อนถ้วยนี้ กิโลกรัมละ 28 บาท 




     สำหรับจังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดในภาคกลาง ที่มีการปลูกยางพาราจำนวนมาก โดยข้อมูลล่าสุดของการยางแห่งประเทศไทยพบว่า มีเกษตรกรชาวสวนยางจำนวน 1,994 ราย มีพื้นที่ปลูกยางรวมทั้งสิ้น 35, 878 ไร่  โดยผลผลิตยางพาราแบ่งเป็นยางแผ่นดิบ 598 ตัน คิดเป็นร้อยละ 77.25 และยางก้อนถ้วย 155 ตันคิดเป็นร้อยละ 20.0 2 ( ข้อมูลณวันที่ 23 กันยายน 2563) นอกจากนี้ จังหวัดอุทัยธานียังเป็นจังหวัดที่มีสหกรณ์ชาวสวนยางที่เข้มแข็ง โดยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรฯ มั่นใจว่าโครงการดังกล่าว ซึ่งจะใช้สหกรณ์สวนยาง เป็นกลไกในการรับซื้อยางจากชาวสวน จะมีส่วนในการสนับสนุนให้มีการกำหนดราคารับซื้อที่สร้างรายได้แก่ชาวสวนยางในระดับที่น่าพอใจ ทำให้ราคายางพาราในประเทศ มีเสถียรภาพได้ในระยะยาว
X