5 เครื่องดื่มมีผลต่อการเกิดอันตรกิริยาต่อยา หากดื่มพร้อมยาอาจส่งผลต่อการรักษาได้

24 กันยายน 2563, 15:36น.


            บ่อยครั้งที่เวลาต้องกินยาแต่หาน้ำเปล่าไม่ได้หลายๆ คนอาจใช้เครื่องดื่มอื่นๆ มาเป็นตัวช่วยในการกินยาให้สำเร็จ โดยคิดว่าคงไม่เป็นอะไร เป็นเครื่องดื่ม เป็นน้ำเหมือนๆ กัน ซึ่งจริงๆ แล้วเครื่องดื่มบางชนิดไม่เหมาะสมกับการดื่มพร้อมยา เพราะจะมีผลต่อการเกิดอันตรกิริยาต่อยา และอาจส่งผลต่อการรักษาได้ แล้วจะมีเครื่องดื่มชนิดใดบ้างล่ะ? วันนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมาอธิบายถึง 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มพร้อมยาเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับทุกๆ คน

           
 5 เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มพร้อมยา


            1. น้ำผลไม้ : การดื่มน้ำผลไม้จะมีผลต่อการดูมซึมของตัวยา หรือเกิดอันตรกิริยาต่อยาได้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาเต็มที่



            2. น้ำอัดลม : การดื่มน้ำอัดลมอาจจะไปกัดกระเพาะอาหารของเราเนื่องจากความเป็นกรดในกระเพาะสูงขึ้น และมีผลต่อการดูดซึมของยา หรือเกิดอันตรกิริยาต่อตัวยานั้นๆ ได้ อีกทั้งในน้ำอัดลมยังมี Caffeine ที่ส่งผลต่อตัวยาด้วย



            3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะมีผลต่อตับอย่างรุนแรง ก็อาจจะส่งผลต่อปริมาณยาที่ร่างกายได้รับ เช่น ไม่ได้ผลการรักษา หรือเกิดพิษจากยา หรือเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ได้



            4. ชาและกาแฟ : การดื่มชาและกาแฟทำให้มีอาการใจสั่นรุนแรงมากขึ้น อาจทำให้ได้รับ Caffeine ที่เกินขนาดส่งผลเสีย เช่น ใจสั่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีผลต่อปริมาณยาที่ร่างกายได้รับ อย่าง ทำให้ไม่ได้ผลการรักษาหรือเกิดพิษจากยาได้



            5. นม : สุดท้ายการดื่มนมจะเป็นการเพิ่มปริมาณแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมจะไปยับยั้งการดูดซึมของยาบางชนิดได้ เช่น ยาปฏิชีวนะ

            ใครที่จะกินยาแล้วมีเครื่องดื่มทั้ง 5 ชนิดนี้ล่ะก็ ให้รีบตามหาน้ำเปล่าโดยด่วนเพราะการกินยาไม่ว่าจะประเภทใดก็ตามควรกินพร้อมๆ กับน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ช่วยให้ยาได้ออกฤทธิ์เต็มที่ รักษาอาการที่เป็นอยู่ให้ทุเลาลง หรือหายได้นั่นเอง



 



ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา





 



 

X