เมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของกลไกระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนอาหาร ช่องปากลดลง ระบบอวัยวะต่างๆ มีภาวะเสื่อม อาจจะทำให้ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น หรือ “สำลัก” ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่มีโอกาสพบได้บ่อย รวมถึงการมีเสมหะ เศษอาหาร หรือฟันปลอมที่ชำรุดไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ดังนั้น วิธีการดูแลผู้สูงอายุเมื่อเกิดอาการสำลักหรือมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น ช่วยประคับประคองไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ วันนี้ กรมการแพทย์จึงมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก เพื่อให้ผู้ดูแลได้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง
ผู้ดูแลต้องทำอย่างไรเมื่อผู้สูงอายุเกิดอาการสำลัก?
ผู้สูงอายุที่เกิดอาการสำลักหรือมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น จะมีอาการหายใจติดขัด มีเสียงคล้ายนกหวีดขณะหายใจ พยายามพูดแต่ไม่มีเสียง ซึ่งอาจหมดสติภายใน 4-5 นาที และในบางคนมีโอกาสเสียชีวิตได้ โดยเมื่อผู้สูงอายุเกิดอาการสำลักอาจไม่มีแรงไอเพื่อขับสิ่งที่อุดกั้นทางเดินหายใจให้ออกมา การดูแลเบื้องต้นผู้ดูแลจึงสามารถทำได้ ดังนี้
- ยืนด้านหลังผู้สูงอายุ ใช้มืออ้อมจากด้านหลังมากำมือประสานไว้ที่หน้าท้องผู้สูงอายุ เหนือสะดือเล็กน้อย
- กระแทกมือขึ้นด้านบนบริเวณกะบังลมอย่างรวดเร็ว โดยใช้แรงพอสมควร ตามจังหวะที่ผู้สูงอายุพยายามหายใจเอาสิ่งที่อุดกั้นออก
ทั้งนี้ ผู้ดูแลสามารถบอกได้ว่าอะไรที่ไปอุดกั้นทางเดินหายใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือของแพทย์ต่อไป
วิธีป้องกันอาการสำลักในผู้สูงอายุ
สำหรับการป้องกันอาการสำลักหรือภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นในผู้สูงอายุ สามารถทำได้โดยดูแลสุขภาพเหงือกและฟันของผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้สำลักง่าย ในส่วนของผู้สูงอายุที่มีปัญหาการกลืนควรปรึกษาแพทย์เพื่อฝึกการกลืน และรีบรักษาเมื่อมีปัญหาเรื่องไอหรือเสมหะ
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าผู้ดูแลทุก ๆ คนจะเข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลเบื้องต้นเมื่อผู้สูงอายุเกิดอาการสำลัก ช่วยประคับประคองอาการให้ทุเลาลง ไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้แพทย์ทำการรักษายาก รวมถึงใช้เวลานานในการฟื้นตัวและอาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ข้อมูล : กรมการแพทย์