เพลิงไหม้รถยนต์ 5 คันใน 1 วัน หลากหลายสาเหตุที่เจ้าของรถต้องระวัง

23 มิถุนายน 2563, 19:21น.


    วันนี้ (23 มิ.ย.63) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ รวม 5 คัน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 


  - เหตุการณ์แรก เวลา 08.47น. รถเก๋งเกิดเพลิงไหม้ที่ห้องเครื่อง บนทางด่วนบูรพาวิถี ขาเข้า ช่วงเลยเซ็นทรัลบางนา ประมาณ 200 เมตร เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน



     - เหตุการณ์ที่สอง เวลา 12.55น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถเก๋ง CRV บนถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ช่วงหน้าตลาดเลียบด่วน เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน





     - เหตุการณ์ที่สาม เวลา 14.39น. เพลิงไหม้รถเก๋ง ภายในซอยบาโบส2 ถนนสุขุมวิท42 เขตคลองเตย เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่อง





     - เหตุการณ์ที่สี่ เวลา 15.21น. เพลิงไหม้รถเก๋ง หน้าทางเข้าหมู่บ้านกล้วยไม้ ซอยเอกชัย119 ถนนเอกชัย เขตบางบอน เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน





     - และเหตุการณ์สุดท้าย เวลา 16.28น. เพลิงไหม้รถปิคอัพ บนทางด่วน2 ช่วงเชิงทางลงด่วนยมราช  ต้นเพลิงมาจากเครื่องปรับอากาศที่บรรทุกมาด้านหลัง เสียหายบริเวณท้ายรถ






   ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ อาจารย์พิเศษ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมธุรกิจยานยนต์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าองค์ประกอบของเพลิงไหม้แต่ละครั้งประกอบด้วยเชื้อเพลิง ออกซิเจน และประกายไฟ สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้รถยนต์อันดับหนึ่งมักจะเกิดการท่อเชื้อเพลิงรั่วซึม อาจเป็นเพราะรถจอดนาน ไม่ใช้งาน และไม่ตรวจเช็คก่อนใช้งาน หรือใช้น้ำมันผิดประเภท เช่นรถรุ่นเก่าไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ เมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน ท่อน้ำมันจะแห้งกรอบทำให้น้ำมันรั่วซึมอยู่ในห้องเครื่องที่มีความร้อนสูง จึงเกิดประกายไฟและไฟไหม้ในที่สุด  นอกจากนี้วงจรไฟฟ้าต่างๆ ที่เจ้าของรถนำรถไปดัดแปลงเช่นการติดตั้งเครื่องเสียง หรือการเดินสายไฟรถยนต์  ช่างฯอาจจะติดตั้งไม่เรียบร้อยทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดไฟไหม้ตามมาได้


  คนขับรถต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติในห้องเครื่องยนต์ เช่นคราบน้ำมันตามท่อต่างๆ หรือก้มดูใต้ท้องรถที่บริเวณห้องเครื่องว่ามีคราบน้ำมันหยดบนพื้นหรือไม่ และขณะใช้รถควรสังเกตกลิ่นควันในห้องโดยสาร  และควรพกถังดับเพลิงติดรถ เพื่อใช้งานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้  


  (Cr.สื่อสารดับเพลิงกู้ภัย ,FIRE&RESCUE(TEAM) ,ห้องภูมินทร์)
X