สอจร.รณรงค์ออกจากบ้านไม่ลืมสวมหน้ากากอนามัย และหมวกนิรภัย

03 พฤษภาคม 2563, 15:19น.


           ช่วงที่ผ่านมาการจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อความปลอดภัย และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และการงดหยุดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลง แต่ขณะเดียวกันในบางพื้นที่ประชาชนยังต้องออกไปทำงานอยู่ และการเดินทางใช้ขี่มอเตอร์ไซด์ จึงย้ำเตือนประชาชนเมื่อออกจากบ้านอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยและหมวกนิรภัยด้วย 



             นายชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ หัวหน้าภาค สอจร.ภาคกลาง แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) เปิดเผยว่า แม้จะเป็นช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในหลายจังหวัดมีผู้ปกครองนำเด็กเล็กมาฝากประมาณร้อยละ 10 จากช่วงเวลาปกติ ซึ่งในการเดินทางมาส่วนใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์ จึงได้กำชับและย้ำเสมอว่า หากเดินทางมานอกจากหยิบหน้ากากอนามัยออกมาจากบ้านแล้ว สิ่งสำคัญคือ หมวกนิรภัยด้วย อย่าลืม เพราะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะพฤติกรรมการขี่รถของคนทั่วไปไม่ได้เปลี่ยน อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงรณรงค์ควบคู่กันไปด้วย พร้อมกับปลูกฝังว่าไม่ว่าเดินทางใกล้หรือไกล ต้องสวมใส่หมวกนิรภัยทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนให้ความร่วมมือดีมาก ส่งภาพสวมหมวกนิรภัยพร้อมหน้ากากอนามัยมาให้ดูเป็นระยะ และถือโอกาสนี้ได้แชร์ออกไปในกลุ่มเครือข่ายอื่นๆ ด้วย เพื่อช่วยกันย้ำเตือนไม่ให้ลืมสวมหมวกนิรภัยก่อนออกจากบ้าน



            สำหรับศูนย์เด็กเล็กที่ร่วมมือกันมาเป็นระยะเวลา 1-2 ปี ประกอบด้วย ศูนย์เด็กเล็ก อบต.ดอนทราย อ.ปากท่อง จ.ราชบุรี จำนวน 5 แห่ง ศูนย์เด็กเล็ก ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง ราชบุรี จำนวน 1 แห่ง ศูนย์เด็กเล็ก อบต. หนองขาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี จำนวน 2 แห่ง และศูนย์เด็กเล็ก อบต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จำนวน 1แห่ง



            นายชิษนุวัฒน์ ฯ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่อาศัยในพื้นที่ระบาดหลายคนทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ในพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัดประชาชนบางครอบครัวไม่สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ เพราะด้วยอาชีพด้านการเกษตร บ้านที่มีบุตรหลานเล็กๆ จำเป็นต้องนำไปฝากครูพี่เลี้ยงที่ศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งศูนย์เด็กเล็กถือเป็นภาคีเครือข่ายที่สำคัญของ สอจร. ในการรณรงค์เรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ



X