ทันตแพทยสมาคมฯ ออกประกาศคู่มือทำฟัน “ควบคุม – ป้องกันการติดเชื้อทางทันตกรรมช่วง COVID-19” สร้างความเข้าใจให้ประชาชน

            ช่วงที่ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำฟังไม่กล้าเข้ารับการรักษาเพราะกลัวติดโรค ทั้งที่มีอาการปวดบวมและทรมาน ทันตแพทยสมาคมฯ จึงได้ออกประกาศคู่มือทำฟัน "แนวทางการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อทางทันตกรรมในสถานการณ์ COVID-19" เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งให้คำแนะนำและข้อปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับทีมทันตแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชนในระหว่างให้การรักษา

            ยืนยันทำฟันได้อย่างปลอดภัย

            ทพ.อดิเรก ศรีวัฒนาวงษา นายกสำรองทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากหลายคนมีความกลัว กังวลถึงการเพิ่มความเสี่ยงของเชื้อในการรับบริการทำฟัน เนื่องจากกระบวนการให้บริการอาจก่อให้เกิดละอองฝอยฟุ้งกระจาย ซึ่งจริงๆ แล้วขอชี้แจงว่าทางทันตแพทย์ได้มีการใช้เครื่องดูดแรงดันสูงใกล้จุดกำเนิดละอองฝอย จึงช่วยลดการฟุ้งกระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชิ้นก็ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในเครื่องอัดแรงดันสูงอย่างดี ปราศจากเชื้อเช่นเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด

            คำแนะนำและข้อปฏิบัติการทำหัตถการรักษาทางทันตกรรม

            สำหรับทันตแพทย์และทีมงาน ควรปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่

             - สวมเครื่องป้องกันทุกครั้งขณะให้บริการ เพื่อลดจำนวนเชื้อและปริมาณละอองฝอย

             - ใช้เครื่องดูดแรงดันสูงใกล้กับจุดกำเนิดละอองฝอย รวมถึงแผ่นยางกันน้ำลายขณะกรอฟัน ช่วยลดปริมาณเชื้อ SAR-CoV-2 ที่ฟุ้งกระจายออกมากับละอองฝอย ได้มากถึงร้อยละ 70-98%

            - ควรมีการตรวจคัดกรองผู้ป่วย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือพาหะในการแพร่กระจายเชื้อ

            - มีการนัดหมายผู้ป่วยโดยกระจายเวลาให้ห่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการนั่งรอและความใกล้ชิดระหว่างบุคคล

            - ในการรักษาแต่ละครั้ง ควรใช้เวลาไม่เกิน 50 นาที

            นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมอื่นๆ ได้แก่ ให้ผู้ป่วยแปรงฟันและใช้น้ำยาบ้วนปากก่อนเข้ารับบริการจากทันตแพทย์ โดยมีหลักฐานยืนยันว่าช่วยลดปริมาณเชื้อได้ถึง 70-95% รวมถึงช่วยลดปริมาณละอองฝอยภายในปาก



             - ภายในห้องทำฟันควรมีอัตราระบบอากาศ และทิศทางการไหลของอากาศ โดยแนะนำให้อากาศเคลื่อนตัวผ่านจากทันตแพทย์ไปยังผู้ป่วย และเคลื่อนตัวออกไปยังพัดลมดูดอากาศโดยไม่ผ่านตำแหน่งที่มีผู้ปฏิบัติงานอื่นอยู่ (ในกรณีที่ไม่สามารถปรับปรุงตามลักษณะตามนี้ได้ให้เปิดหน้าต่าง แล้วใช้พัดลมเป่าระบายอากาศทุกๆ ชั่วโมง และให้เปิดทิ้งไว้นานพอควร)

             ในส่วนของสถานพยาบาลที่มีความพร้อม ส่งเสริมให้จัดระบบระบายอากาศให้ห้องทำฟันทั่วไป ให้มีการระบายอากาศออกสู่ภายนอกอยู่ในช่วง 6-12 ACH และหากจำเป็นต้องให้การรักษาผู้ป่วยที่สงสัยหรือยืนยันว่าติดเชื้อ COVID-19 ควรให้การรักษาในห้องที่มีอัตราการระบายอากาศได้อย่างน้อย 12 ACH

ข้อมูล : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth