ในช่วงที่สถานการณ์ COVID-19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่เช่นนี้ ผู้คนจึงมีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยตัวช่วยป้องกันความเสี่ยงติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนสนใจที่จะผลิต หรือนำเข้าหน้ากากอนามัย แน่นอนว่าต้องมีการติดต่อขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอนให้กับผู้ประกอบการผลิตหรือนำเข้าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้จัดให้มีระบบ fast track ขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้ใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ชี้แจงว่า กรณีที่ผู้ประกอบการมีความประสงค์จะนำเข้าหรือผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้น ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันเชื้อโรคเท่านั้น และจำเป็นต้องมาติดต่อขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าจาก อย. ก่อน โดย อย. ได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตหรือนำเข้าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นลำดับแรก (First priority) เพื่อบรรเทาและตอบสนองความต้องการหน้ากากอนามัยภายในประเทศไทย ได้แก่
- จัดให้มีระบบ fast track ในเรื่อง “การจดทะเบียนสถานประกอบการผลิต หรือนำเข้าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ตรวจเอกสาร รวมไปถึงการตรวจสถานที่ผลิต”
- กรณีนำเข้าผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 1 วัน
- หากยื่นเอกสารที่แสดงว่ามีการขายหน้ากากอนามัยในประเทศผู้ผลิตหรือประเทศเจ้าของผลิตภัณฑ์ และเอกสารแสดงรายละเอียดของหน้ากากอนามัยนั้นๆ เช่น ฉลากสินค้า ลักษณะของหน้ากากอนามัย วัตถุประสงค์การใช้
สำหรับระบบ Fast Track ที่ทาง อย. ได้จัดทำขึ้นนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าหรือผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนคนทั่วไปได้มีหน้ากากอนามัยที่ได้คุณภาพและปลอดภัยในการใช้งาน