สถานการณ์เชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยยังคงแพร่กระจาย ซึ่งตัวช่วยอย่างหน้ากากอนามัยเป็นอะไรที่ผู้คนต้องการอย่างมาก เพราะใช้ป้องกันความเสี่ยงของเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง และด้วยความที่เป็นสินค้าที่หลายคนต้องการจึงทำให้เกิดการขาดแคลน แต่ถึงกระนั้นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดแคลนก็มาจากคนหัวหมอกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ แถมยังมาขายเกินราคาเสียด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือการนำหน้ากากอนามัยใช้แล้วมีรีไซเคิล ใช้มือ 2 กัน คนไม่รู้ก็ซื้อมาใช้ และด้วยการกระทำที่ไม่สมควรเช่นนี้ ศาลยุติธรรมจึงได้ออกมาเตือนผู้ประกอบการที่ขายหน้ากากอนามัย “กักตุน – รีไซเคิลมือ 2” มีความผิดตามกฎหมาย ถูกปรับถูกจับ!!
กักตุนหน้ากากอนามัยมีโทษจำคุก!
สำหรับร้านค้าที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาหน้ากากอนามัยมีโทษปรับ 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542)
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่นำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วมารีไซเคิล เป็นหน้ากากอนามัยมือ 2 มีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน
- ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- และตาม พรบ.ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 มาตรา 4 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาต ประกอบกับ มาตรา 12 ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ