ใครที่ต้องใช้รถใช้ถนน ต้องขับรถเป็นประจำ หรือต้องขับรถเป็นระยะทางไกล สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือ การเกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสาเหตุอาจเกิดทั้งการเมาแล้วขับที่ถือเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สถิติ “การหลับใน” จะแพ้ไปกว่ากัน วันนี้เราเลยมีวิธี 10 อย่างที่จะช่วยให้ตาสว่างไม่มีง่วงระหว่างเดินทาง มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีใดบ้าง
1. ขยับร่างกายยืดเส้นยืดสาย
ลองทำท่าทางต่างๆ อาจเพียงแค่ท่าการสะบัดมือ ส่ายหัว บิดตัว ให้เลือดไหลเวียน ก็พอจะช่วยลดอาการง่วงได้บ้าง หรืออาจจะลองหาจุดจอดรถแล้วลงมาขยับร่างกายยืดเส้นยืดสายก็จะช่วยให้ร่างกายคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งท่าเดิมเป็นระยะเวลานานๆนะ
2. เปิดเพลงสนุกๆหรือเพลงที่ชอบ เสียงดังๆ
การเปิดเพลงสนุกๆ หรือเพลงที่เราชอบ ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงเสียงดังในรถ หรือเต้นตามจังหวะดนตรี ก็จะช่วยให้เราตื่นตัว และการเปิดเสียงดัง ๆ จะช่วยปลุกให้คุณตื่นตัวได้ดีขณะขับรถ
3. ขนมขบเคี้ยวติดรถไว้
หาของรับประทานช่วยแก้ง่วง ไม่ให้ปากว่างขณะขับรถ จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นพวกผลไม้เปรี้ยวๆ หรือหมากฝรั่งทานระหว่างขับรถ ก็จะช่วยให้มีชีวิตชีวาขึ้นได้
4. เช็ดหน้า หรือ ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
ลองพกผ้าเอาไว้ติดรถ ไม่ว่าจะเป็นพวกผ้าเย็น หรือ ทิชชู่เปียก เช็ดหน้าเช็ดตา หรือว่าจะลองจอดแวะตามจุดพักรถและล้างหน้าใช้น้ำเย็นลูบหน้าซักนิด เพื่อเพิ่มความเย็นชุ่มชื้นจะช่วยให้หายง่วง สดชื่น มากขึ้น
5. ดื่มน้ำเย็นรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
การเตรียมน้ำดื่มเย็นๆไว้ดื่มและจิบระหว่างทาง จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นไปต่อได้อีกนาน เพราะจะสามารถเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย สามารถช่วยลดอาการเหนื่อยล้าและง่วงนอนได้ ยิ่งเดินทางไกลๆยิ่งขาดไม่ได้เลยนะ
6. ใช้การกำหนดลมหายใจ
วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้ในการเล่นโยคะ โดยใช้การกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าและออกอย่างรวดเร็วผ่านจมูก ในขณะที่ปิดปากเอาไว้อย่างผ่อนคลาย พยายามให้ลมหายใจเข้าออกสั้น ๆ โดยทำประมาณ 3 รอบต่อ 1 วินาที จากนั้นจึงกลับมาหายใจตามปกติ ในครั้งแรกสามารถทำได้นานถึง 15 วินาทีขึ้นไป และเพิ่มทีละ 5 วินาที ทำจนครบ 1 นาที วิธีบริหารลมหายใจนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น และยังทำให้มีสมาธิกับการขับรถได้ดีขึ้น
7.จอดพักสัก 20-30 นาที
ถ้าร่างกายเริ่มไม่ไหว ง่วงนอน วูบไปวูบมา ห้ามฝืนขับรถเป็นอันขาด! ควรหาจุดจอดรถที่ปลอดภัย จอดนอนพักสัก 20-30 นาที เพื่อให้ร่างกายรู้สึกว่าได้นอนพักผ่อน ค่อยออกเดินทางต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายล้าจนเกินไป และควรจอดรถพักทุก 150 กม. หรือทุก 2-3 ชั่วโมง
8. พาเพื่อนร่วมทางไปด้วยกัน
ถึงแม้เพื่อนจะขับรถไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แค่เพียงมีคนร่วมเดินทางไปด้วยกัน จะได้ช่วยพูดคุยเล่าเรื่องต่างๆ รวมไปถึงช่วยดูทาง ทำให้ไม่ง่วงและคอยเรียกสติของเราในขณะขับรถ แต่ถ้าขับรถได้ด้วยจะยิ่งดีเพราะจะได้ช่วยผลัดเปลี่ยนกันขับลดความเหนื่อยล้าของคนขับ
9. หลีกเลี่ยงการทานอาหารจนอิ่ม และไม่ทานอาหารที่ทำจากแป้งและคาร์โบไฮเดรตมากไป
หากต้องขับรถไกลไม่ควรทาน ข้าว แป้ง เพราะการกินอาหารประเภทที่มีคาร์โบไฮเดรตมากๆ แต่กินโปรตีนต่ำ จะทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารในปริมาณมาก เป็นเหตุให้เลือดไหลหมุนเวียนไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง พลังงานโดยรวมลดลง ส่งผลให้รู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชา
10. ดื่มกาแฟ ใช้คาเฟอีน ใช้ลดอาการแก้ง่วง
กาแฟติดรถไว้ซักนิด เพราะในกาแฟมีสารที่เรียกว่า คาเฟอีน สารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อลดความง่วง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า และเพิ่มการตื่นตัวของร่างกาย ทำให้กลไกการคิดรวดเร็วและมีสมาธิมากขึ้น ซึ่งปริมาณคาเฟอีนในกาแฟจะแตกต่างกันไปตามชนิดของเมล็ดกาแฟ และกรรมวิธีในการเตรียมกาแฟ เช่น กาแฟพันธุ์อาราบิก้า มีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าพันธุ์โรบัสต้า เป็นต้น
ทั้งนี้ก่อนออกเดินทางเราต้องเตรียมความพร้อม ทั้งร่างกายและใจ ยานพาหนะ รวมไปถึงเส้นทาง ว่าแล้วก็พกของติดรถกันไปซักหน่อยนี่เลย “เนสกาแฟกระป๋อง” มีหลากหลายสูตรให้เลือกสรรไม่ว่าจะเป็น " เนสกาแฟกระป๋อง เอสเปรสโซ โรสต์" รสชาติอร่อยเข้มเต็มกระป๋อง เข้มสุดใจ ไปให้สุดทาง "เนสกาแฟกระป๋อง ลาเต้" นุ่มนม กลมกล่อม จากนมสดแท้ หอมอร่อย รวมไปถึงสูตรสำหรับสายสุขภาพ "เนสกาแฟกระป๋อง แบล็ค ไอซ์" กาแฟดำ น้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำ จะได้มีเครื่องดื่มหอม อร่อย เข้มข้น คลายง่วง เป็นเพื่อนไปตลอดการเดินทาง
#nescafe #nescafeEspresso #nescafeBlackIce #nescafeLatte #เนสกาแฟกระป๋อง #เข้มสุดใจไปสุดทาง #อร่อยเข้มไม่ต้องเขย่า #กระป๋องรักษ์โลก