ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขยายวัน เวลาทำการ ใหม่ เพื่อเพิ่มการจัดหาโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย และรองรับผู้บริจาคโลหิตที่สะดวกมาบริจาคโลหิตนอกเวลาทำงานช่วงเย็นถึงค่ำ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นแกนกลางในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพ ปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนางานด้านต่างๆ องค์การอนามัยโลกกำหนดให้การจัดหาโลหิตต้องมาจากผู้บริจาคโลหิตที่สมัครใจไม่หวังสิ่งตอบแทน สำหรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องจัดหาให้ได้จำนวน 700,000 ยูนิต และส่วนภูมิภาค ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ จัดหา 1,350,000 ยูนิต
โดยการรณรงค์จัดหาโลหิตเพื่อผู้ป่วยที่ยังต้องรักษาด้วยการรับโลหิตต่อเนื่องตลอดชีวิตกว่า 23% และในผู้ป่วยผ่าตัดประสบอุบัติเหตุอีก 77% ซึ่งมักต้องการใช้โลหิตอย่างเร่งด่วนและเป็นจำนวนมาก รวมถึงในบางช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดที่ต้องใช้โลหิตในการรักษา เช่น โรคไข้เลือดออก เป็นต้น ส่งผลให้ความต้องการโลหิตเพื่อใช้ในการรักษามีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มการดำเนินงานจัดหาโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย มีโลหิตเพียงพอสำหรับผู้ป่วย และรองรับผู้บริจาคโลหิตที่สะดวกมาบริจาคโลหิตนอกเวลาทำงานช่วงเย็นถึงค่ำ ในวัน เวลาราชการ