19 ธ.ค. 62 ครบกำหนดดีเดย์ "เชื่อมโยงระบบใบสั่ง" ตำรวจ - กรมการขนส่งทางบก

18 ธันวาคม 2562, 22:11น.


     ตามที่เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกร่วมกัน โดยการเชื่อมโยงระบบใบสั่งจราจรกับระบบชำระภาษีประจำปีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.141/1 กำหนดให้นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจรับชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.4/1 กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน 



   ถึงแม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 แต่เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ร่วมกันให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับตั้งแต่มีการบังคับใช้ จึงกำหนดให้วันที่ 19 ธันวาคม 2562 เป็นวันแรกที่กรมการขนส่งทางบก จะรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างชำระแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับดังกล่าวพร้อมกับการชำระภาษีประจำปีได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศ



   อย่างไรก็ตาม หากยังไม่พร้อมชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เจ้าหน้าที่จะออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีฉบับชั่วคราวให้โดยมีอายุใช้งาน 30 วัน หลังจากนั้นผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถไปชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือไปรษณีย์ทุกแห่ง เคาน์เตอร์บริการของธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT และหน่วยงานบริการชำระเงินที่มีสัญลักษณ์ PTM

    นอกจากนี้หากผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเห็นว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ระบุไว้ในใบสั่ง ให้ทำหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ใบสั่ง โดยส่งหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ไปยังสถานีตำรวจที่ระบุในใบสั่ง 



   ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำเว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ เพื่อให้ประชาชนศึกษาข้อมูล และตรวจสอบใบสั่งจราจร จำนวนค่าปรับและช่องทางชำระค่าปรับให้ประชาชนได้ตรวจสอบใบสั่งจราจร จำนวนค่าปรับและช่องทางการชำระค่าปรับอีกด้วย
X