ตามที่โซเชียลได้แชร์หมุดสีขาวแดง ซึ่งเป็น"เซ็นเซอร์" ติดตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ตัวเมืองเชียงใหม่ แก้ปัญหาการจอดรถในที่ห้ามจอดอันเป็นสาเหตุสำคัญของการจราจรติดขัด นั้น
นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า อุปกรณ์เซ็นเซอร์ดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ Smart Nimman ซึ่งเป็นแผนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ของ จ.เชียงใหม่ และภาครัฐหลายหน่วยงาน ภายใต้งบประมาณจากสำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการวางระบบเซ็นเซอร์ไม่ให้จอดในที่ห้ามจอด รวมทั้งสิ้น 171 จุด เริ่มติดตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปัจจุบันติดไปแล้ว 62 จุด บนถนนนิมมานเหมินทร์ ส่วนอีก 109 จุด จะติดตั้งบนถนนที่เชื่อมต่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดเดือนมกราคม 2563 สำหรับหลักการทำงานนั้น หากมีรถมาจอดคร่อม เซ็นเซอร์จะมีระยะเวลาหน่วงประมาณ 15 - 30 วินาที ก่อนส่งเสียงเตือนให้รู้ตัว และส่งสัญญาณไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการได้ทันทีและตรงจุดเกิดเหตุ
ถนนเส้นนี้ระยะทางเพียง 2 กม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แต่กลับมีปัญหาเรื่องวินัยการจอดรถกีดขวาง ซึ่งส่วนใหญ่คนขับจะอ้างว่าจอดแป๊บเดียว แต่นั่นก็เป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัด การทำงานของเซ็นเซอร์ที่ส่งเสียงเตือน น่าจะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกได้ก่อนที่ตำรวจจะมาจับเสียอีก ดังนั้นที่บางคนมองว่าตั้งใจจะปรับท่าทีเดียว ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของโครงการนี้แน่นอน ทั้งนี้ในรายละเอียดของอุปกรณ์จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งคาดว่าวันพุธที่ 11 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นอุปกรณ์จะเป็นเหมือนกล่องขนาดเล็กฝังเรียบอยู่ที่ผิวถนน และมีแบตเตอรี่อยู่ได้นาน 5 ปี
พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา รองผู้กำกับการ กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้นำเซ็นเซอร์ดังกล่าวมาใช้ในการบังคับใช้กฎหมายจริง เพราะยังอยู่ในช่วงของการทดสอบอยู่ ซึ่งถนนนิมมานเหมินทร์ ทาสีขาวแดงห้ามจอดตลอดเส้นทางอยู่แล้ว แต่ผู้ใช้รถรถมักไม่เชื่อฟัง พอตำรวจมาก็ขยับรถหนี สำหรับในส่วนของตำรวจ เซ็นเซอร์ดังกล่าวจะส่งสัญญาณบอกเมื่อมีรถจอด ดูตำแหน่งที่จอดได้ผ่านแอปฯ ช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างวินัยจราจรให้กับผู้ใช้รถเองด้วย
ภาพจาก สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน