เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 กันยายน 2562) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก โดย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และนางจันทิรา บุรุฒพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกร่วมกัน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ได้มีการแถลงความคืบหน้าการเชื่อมโยงระบบใบสั่งจราจรกับระบบชำระภาษีประจำปีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.141/1 กำหนดให้นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจรับชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.4/1 กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน

ถึงแม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 แต่เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ร่วมกันให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับตั้งแต่มีการบังคับใช้
จึงกำหนดให้วันที่ 19 ธันวาคม 2562 เป็นวันแรกที่กรมการขนส่งทางบก จะรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างชำระแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับดังกล่าวพร้อมกับการชำระภาษีประจำปีได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศ

หากยังไม่พร้อมชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่ง เจ้าหน้าที่จะออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีฉบับชั่วคราวให้โดยมีอายุใช้งาน 30 วัน หลังจากนั้นผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถไปชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือไปรษณีย์ทุกแห่ง เคาน์เตอร์บริการของธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT และหน่วยงานบริการชำระเงินที่มีสัญลักษณ์ PTM

นอกจากนี้หากผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถเห็นว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ระบุไว้ในใบสั่ง ให้ทำหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ใบสั่ง โดยส่งหนังสือโต้แย้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ไปยังสถานีตำรวจที่ระบุในใบสั่ง
ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์ เพื่อให้ศึกษาข้อมูล และตรวจสอบใบสั่งจราจร จำนวนค่าปรับและช่องทางชำระค่าปรับให้ประชาชนได้ตรวจสอบ