เริ่ม 20 ก.ย. 62 พ.ร.บ.จราจรฉบับใหม่ ตัดแต้ม ไม่จ่ายค่าปรับต่อภาษีไม่ได้ ทำผิด 4 ครั้งเพิกถอนใบขับขี่ทันที

            ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. การจราจรทางบก จากฉบับที่ 11 พ.ศ. 2522 ไปเป็นฉบับที่ 12 พ.ศ.2562 ซึ่งก็ได้มีการยกเลิกข้อกฎหมายบางมาตราพร้อมทั้งบัญญัติขึ้นใหม่ โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 20 ก.ย. 62 นั้น หลายๆ ท่านอาจจะยังสงสัยว่า พ.ร.บ. การจราจรทางบกฉบับดังกล่าว มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ในวันนี้เราได้รวบรวมข้อสำคัญของพ.ร.บ. ฉบับนี้ที่ควรรู้มาฝาก

            สำหรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ก.ย. 62 มีการบัญญัติข้อกำหนดขึ้นใหม่โดย จนท.ตำรวจจราจรสามารถเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่ได้ แต่จะไม่สามารถยึด/เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่จากผู้ขับขี่รถทุกประเภทได้อีกต่อไป 

            ในส่วนของตัวผู้ขับขี่เองแม้ว่าขณะนี้จะมีใบอนุญาตขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็ต้องพกใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวไว้ด้วย ซึ่งหากจนท.ฯ เรียกตรวจสามารถให้ดูได้ 3 รูปแบบ คือ

            - ใบอนุญาตขับขี่ตัวจริงแบบเดิม

            - ใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องเปิดผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE จากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ไม่สามารถ Copy รูปไว้ หรือใช้ภาพถ่ายเองได้

            - สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับชี่ตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

            หากพบว่าผู้ขับขี่กระทำความผิดจนท. สามารถเปรียบเทียบปรับได้ โดยจะมีการบันทึกข้อมูลความผิดลงใบสั่ง แล้วส่งต้นขั้วกลับสถานีตำรวจหรือหน่วยงานจราจรเพื่อบันทึกตัดแต้มที่มีทั้งหมด 12 แต้ม ซึ่งหากถูกตัดครบ 12 แต้ม จะถูกพักใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน โดยแต้มจะได้คืนต่อเมื่อไปเสียค่าใช้จ่ายอบรมการขับขี่และสอบผ่าน





            ทั้งนี้ ใน 1 ปี ถ้าผู้ขับขี่กระทำความผิดรวม 4 ครั้ง จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันที และผู้ขับขี่ที่ได้ใบสั่งแต่ยังไม่สะดวกจ่ายค่าปรับสามารถมาจ่ายพร้อมค่าภาษีรถประจำปีพร้อมกันได้ ซึ่งเมื่อชำระแล้วจะได้ป้ายวงกลมฉบับจริงทันที แต่หากไม่ชำระค่าปรับพร้อมภาษีรถประจำปี จนท.จะให้ป้ายวงกลมชั่วคราว โดยมีอายุ 30 วันนับจากที่นายทะเบียนออกให้ ซึ่งจะได้รับป้ายวงกลมฉบับจริงก็ต่อเมื่อชำระค่าปรับแล้วนำใบเสร็จมาแสดงกับกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น