ดวงตะวันสาดส่องแสงแดดอ่อนในยามเช้าของวันหยุดยาว นอนพักอยู่บ้านเฉยๆช่างแสนน่าเบื่อ เราหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง มุ่งหน้าขึ้นเหนือในวันธรรมดาน่าเที่ยวกันดีกว่า
เที่ยวครั้งนี้ต้องเตรียมตัวกันแต่เช้าหน่อยเพราะต้องใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ในการเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองชาละวัน หรือ จังหวัดพิจิตร เมืองเล็กแต่น่ารัก หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าในเมืองเล็กๆนี้ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ และบรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนมากๆ
.jpg)

.jpg)

สถานที่จะพาไปชม "บ้านเก่า เสาปั้นจั่น" ซึ่งเป็นชื่อท่าเรือส่งสินค้าของ อ.ตะพานหิน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวบ้านมีความเก่าแก่ และมีอายุมากถึง 66 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้ใหม่ใน อ.ตะพานหิน ลักษณะการออกแบบคล้ายๆกึ่งพิพิธภัณฑ์ กึ่งแกลลอรี่ โดยแต่ละจุดในบ้านมีของเก่าที่หาชมได้ยากมาจัดแสดง บางชิ้นหลายคนยังไม่เคยเห็นอีกด้วย และที่น่าสนใจมากที่สุดคือ มุมถ่ายภาพที่สวยในทุกมุมของบ้าน ขอบอกไว้ก่อนว่าเตรียมกล้องให้พร้อม ไม่อย่างนั้นจะเสียใจแน่นอน
.jpg)
หลังจากได้เก็บภาพและชมบ้านเก่าเสาปั้นจั่นเสร็จแล้ว เดินไปพักร้อนได้ข้างกันมี "ร้านโกยีกาแฟในตำนาน" ที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 เรียกว่าเก่าแก่มาแต่รุ่นปู่กันเลยทีเดียว ใครอยากรู้รสชาติกาแฟโบราณของแท้เป็นอย่างไร ต้องแวะมาชิมให้ได้
.jpg)
.jpg)
หลังจากแวะชิมกาแฟโบราณเรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายเราเดินทางกันต่อไปกราบสักการะหลวงพ่อโต ที่วัดโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นถิ่นประสูตรของพระเจ้าเสือ ตั้งอยู่ที่ ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง
.jpg)
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าเสือทรงระลึกถึงสถานที่ประสูติของพระองค์ ทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้สมุหนายกเกณฑ์กันสร้างพระอารามแห่งนี้ขึ้น โดยมีการสร้างพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ ศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ขึ้น ใช้เวลาในการสร้าง 2 ปี จึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นทรงตั้งพระธรรมรูจีราชมุนีเป็นเจ้าอาวาส และได้พระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดโพธิ์ประทับช้าง"
.jpg)
มองดูเผินๆ เหมือนจะเป็นสถานโบราณทั่วไป ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมเหมือนวัดอื่นๆ ที่เคยไปกัน แต่กับวัดแห่งนี้ ยังคงมีพระจำพรรษาอยู่และชาวบ้านก็ให้ความสำคัญไม่ต่างกับวัดทั่วไป ยังมีการทำพิธีบวช สวดมนต์ รวมถึงการเวียนเทียนอยู่เป็นประจำ
.jpg)
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ประดิษฐานบนฐานชุกชี ตั้งอยู่ภายในพระอุโบสถซึ่งซึ่งเป็นอาคารประธานของวัด ตั้งอยู่กึ่งกลางของเขตพุทธาวาส หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ที่มีแม่น้ำน่านไหลผ่านลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
.jpg)
หลังจากอิ่มบุญกันเรียบร้อยแล้ว เดินทางต่อไปที่ "พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์" อ่าว!!! ถึงกับ งง กันเลยที่เดียว ชื่อนี้ทำไมคุ้นๆ อยู่พิจิตรดีๆ ไปเวียดนามเสียแล้ว
.jpg)
พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ ไม่ได้อยู่เวียดแต่อย่างใด แต่ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดให้บริการ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 17.00น. (หยุดทุกวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
.jpg)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องประเทศไทยกับประธานโฮจิมินห์ ผู้กอบกู้เอกราชเวียดนาม


ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การกอบกู้เอกราชของประธานโฮจิมินห์ อาทิ สายสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม จัดแสดงเน้อหาไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2376-2497 ประวัติความเป็นมาของบ้านดงในอดีต การเคลื่อนไหวของประธานโอจิมินห์




หลังจากได้ความรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์แล้ว มองดูท้องฟ้าใกล้อาทิตย์อัสดงแล้ว ไปนั่งมองพระอาทิตย์ตกกันที่ "บึงสีไฟ" เหตุที่เรียกชื่อบึงสีไฟ เพราะว่า ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นพระอาทิตย์เป็นสีส้ม เหมือนลูกไฟ
.jpg)


.jpg)
.jpg)
หากสนใจมาตะลุยเที่ยวแบบนี้ แต่มีคำถามเกี่ยวกับการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหารขึ้นชื่อ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ใน จ.พิจิตร สอบถามได้ที่ ททท.สำนักงานนครสวรรค์ เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 1045/2 ชั้น 1 – 2 หมู่ที่ 10 ถนนนครสวรรค์ – พิษณุโลก ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 60000 โทร. 0 5622 1811 – 2
#ททท #TAT1672 #JS100