กรมชลประทานยืนยัน เขื่อนกั้นน้ำเค็มริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ ไม่ได้แตก ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

        เมื่อเวลา 19.30 น. เกิดเหตุน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมภายในชุมชนชลประทานคลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยมีระดับความสูงประมาณ 1 เมตร  ซึ่งเป็นบ้านพักลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้นของจนท.กรมชลประทาน ปลูกเป็นแถวยาวทั้งหมดประมาณ 50 ครอบครัว ถูกน้ำท่วมทั้งหมดโดยมีระดับน้ำทรงตัวที่ประมาณ 60 ซม. รถที่จอดนอกบ้านทุกหลังถูกน้ำท่วมครึ่งคัน จนท.การไฟฟ้าฯรีบเข้าตัดระบบไฟเพื่อให้จนท.กู้ภัยฯ ได้เข้าช่วยเหลือ  จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าจุดที่เกิดเหตุน้ำทะลักคือแนวกั้นน้ำจืดและน้ำเค็มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงจนทะลักเข้ามาในพื้นที่บ้านเรือนของจนท.กรมชลประทาน ทุกคนต่างแตกตื่นเก็บข้าวของไม่ทัน และรีบอพยพขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานใช้เรือท้องแบนทยอยเข้าช่วยเหลือแล้ว





          หลังเกิดเหตุประชาชนที่ทราบข่าวได้เกิดความแตกตื่น เพราะคิดว่าเป็นเขื่อนแตกตามที่ทราบข่าวในเบื้องต้น ด้าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ออกมายืนยันว่าเขื่อนกั้นน้ำเค็มริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้แตกตามการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่างๆ ขอให้ประชาชนอย่าได้ตระหนก และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ที่รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน และได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงส่วนน้ำที่ทะลักท่วมในภาพ เป็นน้ำทะเลหนุนสูงสุดของวันนี้เมื่อเวลา 20.00 น. ทำให้น้ำทะเลล้นแนวกั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร ซึ่งอยู่ที่หัวงานติดฝั่งทะเล น้ำจึงไหลเข้ามาและท่วมบ้านพัก เจ้ากน้าที่โครงการฯ ราว 50 ครอบครัว และต่อมาน้ำทะเลเริ่มลดระดับลง จนท.จึงเดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีชลหารพิจิตร 1 และ 2 เพื่อสูบน้ำออก









         อธิบดีกรมชลประทานขอยืนยันและขอให้ความมั่นใจ น้ำที่ล้นเข้ามาจะไหลลงสู่คลองระบาย และระดับน้ำในคลองระบายก็ไม่ได้มากยังรับน้ำจำนวนนี้ได้อยู่ และในเช้าวันนี้ (5ก.ค.62) จะนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมเสริมแนวคันกั้นน้ำที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับน้ำทะเลที่จะหนุนสูงเช่นนี้อีก

ภาพจาก ข่าวสารงานกู้ภัย