"ผมขอโทษ.. ขอโทษสังคมและเพื่อนร่วมอาชีพ ผมผิดไปแล้ว" โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก กล่าวสำนึกผิดพร้อมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

     กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับสน.นางเลิ้ง และกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวการติดตามตัวโชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก เรียกค่าโดยสารนักท่องเที่ยวเกินจริง โดย พล.ต.ท. ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากกรณีที่เฟซบุ๊ค JS100 ได้เผยแพร่ภาพข่าวโชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก โกงราคาค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่เรียกใช้บริการจากบริเวณสี่แยกนางเลิ้งไปลงที่ โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค ก่อนหน้านั้นได้ตกลงในราคา 500 บาท แต่พอถึงจุดหมาย ได้เรียกเก็บคนละ 500 บาท รวมเป็น 1,500 บาท



     หลังจากนั้น จนท. ตำรวจจึงเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดโดยการนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบวินตุ๊กตุ๊กบริเวณแยกนางเลิ้ง จึงได้ทราบจากเพื่อนร่วมอาชีพที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของตุ๊กตุ๊กคันดังกล่าว ให้ข้อมูลถึงชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ จนจนท.ตำรวจสามารถติดตามไปที่บ้านพักและพบกับลูกสาว จึงให้ลูกสาวติดต่อบิดาให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

     วันนี้นายบุญเลิศฯ โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก ได้เข้ารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจฯ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทั้งยังออกมาขอโทษนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 คนผ่านทางสื่อมวลชนว่า ”ผมขอโทษ และขอรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และขอโทษกับทุกคนที่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย”



      ทางด้านนายสมชัย ราชแก้ว หัวหน้าฝ่ายตรวจการ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลังผู้กระทำผิดมาพบเจ้าหน้าที่ฯจากการตรวจสอบ เห็นว่านายบุญเลิศได้ยอมรับสารภาพ และออกมาขอโทษ ทั้งยังเป็นการกระทำผิดครั้งแรก จึงได้ลดหย่อนค่าปรับให้เหลือครึ่งหนึ่ง และจะนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ พื้นที่อื่นๆต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯได้ข้อหากระทำความผิดจริงถึง 3 ข้อหาคือ

      1. ใช้รถที่ทะเบียนระงับ เป็นความผิดตามมาตรา 6(5) ประกอบมาตรา 60 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท

      2. ใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ เป็นความผิดมาตรา 65 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท

      3. เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ตกลงกันไว้ เป็นความผิดตามมาตรา 66/5 มีโทษปรับม่เกิน 5,000 บาท ลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2,000 บาท

       4. ทำการถอดยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถสามล้อคันดังกล่าวส่งคืนนายทะเบียน  พร้อมทั้งส่งตัวผู้ขับรถเข้ารับการอบรมกฎ ระเบียบ และปลูกจิตสำนึกการให้บริการที่ดีเป็นเวลา 3 ชั่วโมง