'ม้าเร็วสองล้อ'เสี่ยงเจ็บ-ตายบนท้องถนน แพทย์จี้หาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุ

17 พฤษภาคม 2562, 14:25น.


     นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบอาชีพรับ - ส่งพัสดุ เช่น เอกสาร อาหาร ตลอดจนสินค้าอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลักที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา จึงสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูง

    และเป็นอาชีพที่มักได้ค่าตอบแทนคิดตามเที่ยวที่ส่งของได้ ยิ่งมีจำนวนเที่ยวส่งของมากยิ่งมีรายได้มาก ผู้ขับขี่จึงมักใช้ความเร็วสูงเพื่อหวังที่จะกลับมาต่อคิววิ่งรอบต่อไปให้เร็วที่สุด

    สินค้าบางชนิดมีการโฆษณาว่าจะสามารถส่งให้ลูกค้าได้ภายในเวลาไม่เกินกี่นาที แม้จะเผื่อเวลาไว้แต่เมื่อออกสู่ท้องถนนจริงอาจเจอปัจจัยที่ไม่คาดคิด เช่น การจราจรติดขัด หรือบางหน่วยงานมีช่วงเวลารับของ เหล่านี้เป็นตัวแปรที่กดดันให้ต้องใช้การขับขี่ที่อาจเป็นอันตราย



     ความไม่ชำนาญในพื้นที่ส่งสินค้า ปัญหานี้เกิดขึ้นได้แม้กระทั่งพนักงานที่มีประสบการณ์ และต้นสังกัดกำหนดพื้นที่รับงานไว้ชัดเจน เพราะในบางครั้งการไปส่งของให้ถูกที่ก็ต้องอาศัยการดูสถานที่ซึ่งมีรายละเฉียดปลีกย่อยเฉพาะตัว ที่ลูกค้าบอกมาว่าเป็นที่รับของตรงนี้ พนักงานหลายคนจะใช้วิธีมือข้างหนึ่งใช้โทรศัพท์มือถือคุยกับลูกค้าบ้างหรือกดดูแผนที่บ้างในขณะที่มืออีกช้างบิดดันเร่งให้รถแล่นไปด้วยซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้

     สิ่งที่ควรปรับปรุงเพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนของคนกลุ่มนี้ ควรมีระบบการบริหารจัดการโดยกำหนดพื้นที่ให้ผู้ส่งสินค้าแต่ละคนไม่ต้องวิ่งส่งสินค้าในระยะทางไกล จนต้องเร่งทำเวลาด้วยการใช้ความเร็วสูง ส่วนค่าตอบแทนต้องไม่เน้จำนวนเที่ยวเป็นหลัก อย่างน้อยมีเงินเดือนเป็นพื้นฐานเบื้องต้น มากกว่านั้นค่อยเป็นค่าเที่ยววิ่งไป เพื่อลดแรงกดดันที่ทำให้พนักงานต้องเร่งทำรอบ



     นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรจัดหาอุปกรณ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน ที่ต้องโทรศัพท์พูดคุยกับลูกค้า อย่างน้อยควรมีหูฟัง – ไมโครโฟน ให้พนักงานสามารถพูดคุยโทรศัพท์กับลูกค้า ขณะเดียวกันควรมีกลไกที่ทำให้ผู้จะเข้าสู่อาชีพพนักงานขี่มอเตอร์ไซค์รับ- ส่งสินค้า ได้รับการฝึกอบรมทักษะบางอย่างที่จำเป็น เช่น การใช้เบรก และกรณีที่ผู้ประกอบการจัดซื้อมอเตอร์ไซค์ไว้ให้พนักงานใช้ทำงาน ก็ควรเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบเบรค ABS เพราะเมื่อมีการเบรกกะทันหันก็จะลดการเสียหลักได้



     หน่วยงานที่ไม่เผื่อเวลาให้คนที่ขับขี่บนถนน แล้วไปคาดหวังว่าถ้าคุณรับเอกสารไปคุณต้องไปลงนัดให้ทัน แล้วให้เขาไปลุ้นเอาเอง ไปเสี่ยงเอาเองบนท้องถนน ในเชิงระบบถ้าเรามีการสอบสวนแล้วพบความเสี่ยงลักษณะนี้หน่วยงานต้องเข้ามารับผิดชอบ อาจต้องทบทวนวางหลักเกณฑ์ให้ชัดว่าแมสเซนเจอร์ (Messenger) จะมารับเอกสารไปส่งภายนอก จะต้องมารับเอกสาร รับข้อมูล และต้องมีเวลาให้เขามากพอที่จะไม่ต้องไปเร่งบนถนน

     ทั้งนี้ แม้รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เผยแพร่เมื่อปลายปี 2561 ประเทศไทยจะมีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนมากเป็นอันดับ 9 ของโลก ลดลงจากรายงานเมื่อปี 2558 ซึ่งครั้งนั้นไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลก แต่หากแบ่งประเภทผู้เสียชีวิตตามยานพาหนะที่ใช้ พบว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเป็นผู้ขี่มอเตอร์ไซค์มากที่สุดในโลก



    Cr.ข้อมูลและภาพ จากเว็บไซต์ : roadsafetythai.org ,CheckRaka , sales100million , waymagazine ,pinterest



 

X