วันที่ 11 เมษายน 2562 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีปล่อยแถวขบวนรถเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 รวมจำนวน 46 คัน ประกอบด้วย รถดับเพลิงและกู้ภัย จำนวน 25 คัน รถสายตรวจเทศกิจ จำนวน 8 คัน รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิต จำนวน 7 คัน รถตรวจการณ์ของสำนักการจราจรและขนส่ง จำนวน 1 คัน รถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 คัน รถสายตรวจ 191 จำนวน 1 คัน รถตรวจการณ์ของหน่วยทหาร 1 คัน รถบรรเทาสาธารณภัยของ อปพร.กทม. จำนวน 2 คัน โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)

นายสกลธี ภัททิยกุล กล่าวว่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรุงเทพมหานครจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยประชาชน โดยจัดกิจกรรมปล่อยแถวขบวนรถเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนชาว กทม. เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีวันหยุดราชการต่อเนื่องกันหลายวัน และประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด รวมทั้งมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อาจส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการจราจร รวมทั้งความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัยในเคหสถาน หากทิ้งบ้านเรือนไว้ไม่มีผู้ดูแล และสถานบริการซึ่งมีกิจกรรมการแสดงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ตลอดจนการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ภายในอาคาร หากไม่ใช้ความระมัดระวังอาจทำให้น้ำเข้าไปในปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงฤดูร้อนมีสภาพอากาศแห้งแล้ง จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟไหม้หญ้า และเพลิงไหม้อาจลุกลามอาคารบ้านเรือนสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

กรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 โดยกำหนดมาตรการ แนวทาง และขั้นตอนการปฏิบัติตั้งแต่ ขั้นเตรียมการก่อนเทศกาลสงกรานต์ (ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป) ขั้นปฏิบัติการระหว่างเทศกาลสงกรานต์ (ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 62) และขั้นปฏิบัติการหลังวันเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การป้องกันอัคคีภัยในเคหสถานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การป้องกันอัคคีภัยในอาคารสถานบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 ณ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่ออำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และทันต่อเหตุการณ์

กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมความพร้อมรถดับเพลิงและกู้ภัย รถหน่วยแพทย์กู้ชีวิต พร้อมเจ้าหน้าที่ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการแพทย์ หน่วยทหาร ตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในเขตพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มเติมจากสถานีดับเพลิงหลัก 35 สถานี และสถานีดับเพลิงย่อยอีก 12 สถานี รวมทั้งหมด 82 จุด พร้อมทั้งตั้งจุดบริการประชาชนบริเวณถนนเข้า - ออกเมือง จำนวน 11 จุด เพื่อให้บริการตรวจสอบสภาพรถ และตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้ประชาชน ฟรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.62 ประกอบด้วย
(1.) บริเวณด้านชีค รีพับบลิค ถนนเทพรัตน เขตบางนา
(2.) ปั้มน้ำมัน ปตท.กม.12 ถนนพระราม 2 มุ่งหน้ามหาชัย ฝั่งขาออก (11-14 เม.ย.62) และบริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. สาขาแสมดำ ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า (15-17 เม.ย.62) เขตบางขุนเทียน
(3.) ปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนบรมราชชนนีขาออก (11-14 เม.ย.62) และบริเวณถนนบรมราชชนนี ขาเข้า ต่างระดับ พุทธมณฑลสาย 3 (15-17 เม.ย.62) เขตทวีวัฒนา
(4.) บริเวณใต้สะพานข้ามแยกมหานคร-ถนนเชื่อมสัมพันธ์ เขตหนองจอก
(5.) บริเวณสถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก เขตดอนเมือง
(6.) บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองแขม (ซอยเพชรเกษม 79) ถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม
(7.) บริเวณสำนักงานเขตลาดกระบัง ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง
(8.) บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ใหม่-ตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
(9.) บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ สายใต้ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย
(10.) บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ เอกมัย เขตคลองเตย และ
(11.) บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต เขตจตุจักร
รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 ณ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ตลอดจนติดตามผลการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจและอบอุ่นใจในความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัย เพื่อขอความช่วยเหลือได้ ทางโทรศัพท์สายด่วน 199 และ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง