ความคืบหน้ากรณี พบเด็กทารกเพศชาย ถูกนำมาทิ้งบนทางเท้าซอยสุขสวัสดิ์ 38 เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ล่าสุดทีมข่าว JS100 ติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมที่ รพ.ราษฎร์บูรณะ หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเด็กส่งมาที่ รพ.ราษฎร์บูรณะ เพื่อตรวจสุขภาพเด็ก โดย พ.อ.อ.ศิริวัฒนา ลิ้มจินดาพร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และการพยาบาล เปิดเผยว่า ทีมแพทย์ตั้งชื่อให้กับเด็กอย่างไม่เป็นทางการว่า ด.ช.แบ็ก (Bag) เพราะว่าเด็กมากับกระเป๋า มีลักษณะผิวขาว หน้าตาน่ารัก น้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม ไม่มีอาการงอแง จะร้องก็ต่อเมื่อตอนที่หิว หรือขับถ่ายเท่านั้น เหมือนเด็กปกติทั่วไป และได้ตรวจประเมินสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่าแข็งแรงสมบูรณ์ดี ขณะนี้เด็กอยู่ในห้องปลอดเชื้อ และจะให้อยู่ในตู้อบเนื่องจากเด็กมีอาการหายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย และอยู่ในระหว่างการดูแลเฝ้าระวังการติดเชื้อ ทั้งนี้สภาพร่างกายเด็กที่พบครั้งแรก สายสะดือได้ถูกตัดแต่ไม่มีเชือกผูกอยู่ คาดว่าเด็กน่าจะเกิดมาได้ 1 วัน ขณะนี้ได้ประสานงานร่วมกับเขตราษฎร์บูรณะ และศูนย์สังคมสงเคราะห์เพื่อรับดูแลต่อ ในระหว่างที่ตำรวจดำเนินการหาแม่ของเด็กต่อไป
ขณะที่ ดร.สมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า การช่วยเหลือเด็กขั้นตอนแรกเริ่มที่การนำส่ง รพ. เพื่อตรวจสุขภาพ จากนั้นจะรับเข้ามาพักที่บ้านพักเด็ก 90 วันระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาพ่อแม่เด็ก หลังจากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการขอรับเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย ถ้าเป็นญาติและสามารถพิสูจน์ได้ สามารถรับไปได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ญาติโดยตรง จะมาขอรับเลี้ยงเด็ก ไม่สามารถเลือกระบุตัวเด็กได้โดยเด็ดขาด เพราะถือว่าเด็กไม่ใช่สินค้า หากจะรับเด็กไว้ดูแลเป็นบุตรบุญธรรม ก็ต้องดูตามลำดับณขณะนั้นว่าคนไหนก่อนหลัง และเงื่อนไขอื่นๆประกอบกันไป
สำหรับพ่อแม่ที่ทิ้งเด็กนั้นมีโทษตามกฎหมาย จำคุก 3 เดือน ปรับ 30,000 บาท แต่ถ้าพ่อแม่กลับใจมารับเด็ก เจ้าหน้าที่มักจะไม่ได้เอาผิด เพราะส่วนใหญ่มีเหตุผลจากความยากจน แต่จะตักเตือนและทำบันทึกไว้ อย่างไรก็ตามถ้าไม่พร้อมเลี้ยงลูก ให้ติดต่อศูนย์ประชาบดี โทร 1300 ทางศูนย์ฯจะส่งนักสังคมและนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุย ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และให้การเลี้ยงดูเป็นรายกรณี แต่ที่ไม่มีการประชาสัมพันธ์เพราะไม่ต้องการสนับสนุนให้ทิ้งเด็กโดยตรง ทั้งนี้อัตราการรับเด็กเข้ามาลดลงกว่าอดีต จากเมื่อก่อนประมาณ 200 คน/ปี ปัจจุบันอยู่ที่ 120 คน/ปี ส่วนเหตุผลส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะพ่อแม่ไม่อยากเลี้ยงเลยออกมาทิ้ง แต่เป็นเพราะพ่อแม่มีความผิดต้องจำคุก ทำให้ไม่มีคนเลี้ยงเด็กและไม่สามารถติดต่อญาติได้