หน้าร้อนนี้ เที่ยวทะเล ‘ชุมพร’ ลองไปแล้วจะรู้ ลองดูแล้วจะรัก

        ผมกำลังนั่งอยู่บนเรือยอร์ช พร้อมเพื่อนร่วมทางอีกหลายคน มันท่องไปตามแม่น้ำท่าตะเภาอย่างช้า ๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยตลาดปลา ชุมชนทางบก และเรือประมงขนาดใหญ่ ก่อนมุ่งตรงสู่ปากน้ำชุมพร ผ่านจุดชมวิวเขามัทรี โดยมีปลายทางอยู่ที่เกาะลังกาจิว ซึ่งเป็นจุดที่จะมีการแถลงจัดงานเปิดโลกทะเลชุมพร ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่  27-31 มี.ค. 2562 ณ ชายหาดทุ่งวัวแล่น อ.ประทิว จ.ชุมพร ใช้เวลาแล่นโต้คลื่นประมาณ 30 นาที







        เกาะลังกาจิว เป็นเกาะสัมปทานรังนก ตั้งอยู่ ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร มีขนาดปานกลาง ที่นี่นับเป็นเกาะหนึ่งที่อุดมสมบูรณ์ มีชายหาดสวยงาม แนวปะการังชายฝั่ง และน้ำทะเลสีครามไล่ระดับกันไป จึงเหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำอย่างการดำน้ำสน๊อกเกิล หรือการพายเรือคายัค นอกจากนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จทอดพระเนตรการเก็บรังนกบนเกาะนี้ถึง 3 ครั้ง และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. พร้อมระบุ ร.ศ. ไว้บนผนังหินปากถ้ำ เป็นหลักฐานมาจนถึงปัจจุบันนี้









        เดินทางมากันต่อที่ หาดทุ่งวัวแล่น อ.ประทิว จ.ชุมพร ที่จะเป็นสถานที่จัดงานเปิดโลกทะเลชุมพร ครั้งที่ 29 ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 16 กม. ชายหาดมีเม็ดทรายสีขาวนวล ทอดยาวไกลสุดสายตา น้ำทะเลก็สะอาด เป็นสีฟ้าน่าลงเล่นมากมาย ทั้งบรรยากาศก็เงียบสงบไม่มีเตียงผ้าใบ หรือกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ มารบกวน







        สำหรับที่มาของชื่อ หาดทุ่งวัวแล่น มีตำนานเล่าว่า เมื่อก่อนบริเวณนี้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก วันหนึ่งมีกลุ่มนายพรานออกล่าสัตว์ ขณะเดินอยู่ก็พบวัวป่าตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าไป นายพรานจึงประทับปืนขึ้นบ่ายิงวัวเคราะห์ร้ายล้มลง ก่อนค่อย ๆ สาวเท้าเข้าใกล้ แต่ทันใดนั้นเองวัวป่ากลับทะลึ่งตัวลุกขึ้นและหนีเข้าป่าไป จึงเป็นที่มาของหาดทุ่งวัวแล่น และมีอนุสาวรีย์รูปวัวทำท่าวิ่ง ยืนท้าแดดลมฝนอยู่ริมหาด







        เช้าถัดมาหลังกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมมีนัดกับพี่ ๆ ชาวประมงพื้นบ้านที่ท่าเรือท้องโตนด เพื่อเดินทางข้ามไปยังเกาะกุลา แต่ระหว่างทางเราแวะสักการะพระบรมธาตุสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร วัดเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี กันก่อน โดยพระองค์นี้มีตำนานเล่าว่า ถูกสร้างโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ครั้งเสด็จเสด็จยกทัพมาพักยังวัดร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดพระบรมธาตุสวีในปัจจุบัน โดยมีการขุดพบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในซากอิฐเจดีย์ชำรุด จึงตรัสให้แม่ทัพนายกองและไพร่พลทั้งหลายสร้างพระธาตุขึ้นใหม่ในที่เดิมเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ











        อิ่มบุญ อิ่มใจเต็มทีแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไป เกาะกุลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือท้องโตนดประมาณ 15 นาที ลำหนึ่งนั่งได้ 8 คน ราคา 1,000 บาท เรือหางยาวพาเราโต้คลื่นผ่านเกาะหนู เกาะแมว และเกาะกระ มุ่งตรงสู่จุดหมายปลายทาง เมื่อมองจากด้านหน้าเกาะกุลาเป็นเกาะขนาดกลาง มีน้ำทะเลใสแจ๋ว สามารถมองเห็นแนวปะการัง และฝูงปลาแหวกว่ายไปมา ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงความอุดมสมบรูณ์ น่ามาพักผ่อนหย่อนใจ







        สำหรับชื่อ กุลา สันนิษฐานว่าเป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง ค้างคาว ซึ่งในอดีตมีอาศัยอยู่บนเกาะจำนวนมาก โดยบนเกาะจะมีชายหาดทั้ง 3 หาด แต่หาดที่ 3 ด้านทิศตะวันตกจะสงวนไว้ให้เต่ากระขึ้นมาวางไข่ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมทางน้ำ เช่น การดำน้ำสน๊อกเกิลดูฝูงปลาตามโขดปะการัง การพายเรือคายัค และมีบ้านพัก 3 หลัง หลังละ 1,500 บาท นอนได้ 5-6 คน หรือใครอยากกางเต็นท์นอนชิลล์ ๆ ริมหาด ที่นี่ก็มีให้เช่าหลังละ 300 บาท นอนได้ 2 คน มีทั้งพัดลม ปลั๊กไฟ และเครื่องนอน พร้อมอาหารเช้า-เย็น ราคา 550 บาท









        หากสนใจมาตะลุยเที่ยวแบบนี้ แต่มีคำถามเกี่ยวกับการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหารขึ้นชื่อ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ใน จ.ชุมพร สามารถสอบถามได้ที่ ททท.สำนักงานชุมพร (รับผิดชอบพื้นที่ ชุมพร , ระนอง) โทร. 0-7750-1831 , 07750-2775-6 ติดต่อเรือหางยาวเกาะกุลา โทร. 06-1229-9372 (เอ็กซ์) หรือจองบ้านพัก เต็นท์ เกาะกุลา โทร. 08-7272-2238 (ประสงค์) , 08-9970-0504 (สำเริง)  

#ททท #TAT1672 #JS100

ป๋าแนทเที่ยวเตร่