ย้อนรอย “ผีกองปราบ”จะปิดตำนาน จริงหรือ ?

ตำนานเรื่องเล่าความน่ากลัวของสิ่งลี้ลับในห้องขังกองปราบปราม จะจบลงหรือไม่ หลังการรื้อถอนอาคารของกองบังคับการกองปราบปราม หลังใน(สีฟ้า)เพื่อก่อสร้างใหม่ เป็นอาคารของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือตม.หลังใหม่
หากย้อนไปฟังความเฮี้ยนของผีกองปราบ ร่ำลือกันปากต่อปาก จากผู้ต้องหาในคดีข่มขืนเจอดี หรือล่าสุดกลุ่มผู้ต้องในคดีเล่นการพนัน ที่ถูกคุมขังเพียงคืนเดียว ก็เข็ดขยาด เมื่อพบชายสวมเสื้อกล้ามสีแดง มาเรียกและชวนพูดคุยบ้าง นั่งเฉยๆบ้าง หรือบางทีจะช่วงนับซี่ลูกกรง จนสุดท้าย “ชวนผูกคอตาย”เพื่อหมดทุกข์
จุดเริ่มต้นผีกองปราบ ย้อนไปเมื่อปี 2550 เมื่อนายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุขืนใจหลานสาวของตัวเองในวัย 11 ปีจนตั้งท้อง เกิดความเครียดใช้เสื้อกล้ามสีแดงของตัวเองที่ใส่อยู่ ผูกกับซี่ลูกกรงภายในห้องขังของกองปราบฯ เพื่อจบชีวิตตัวเอง ในวันที่ 1กรกฎาคม ของปีนั้น จนกลายมาเป็นเรื่องเล่าตำนานผีกองปราบฯ
สภาพภายในห้องขัง ในกองปราบปราม สัมผัสแรกคือความอึดอัด แม้จะติดพัดลมระบายอากาศถึง6ตัว รวมๆกับ บรรยากาศโพล้เพล้ ยิ่งทำให้หวาดหวั่นไม่น้อย (สยองขวัญ) ทางเดินเข้าไปในห้องขังกว้างประมาณ 1เมตร ด้านซ้าย เป็นห้องขังลักษณะรูปตัวที ข้างในจะถูกแบ่งเป็น 4 ห้องเล็ก และมีห้องข้างในสุดเป็นห้องโถงซึ่งเป็นห้องที่ผู้ต้องขังพบกับชายในเสื้อกล้ามสีแดง
ร้อยตำรวจตรี สำเริง ใจแสน รองสารวัตรชำนาญการ5 ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องควบคุมผู้ต้องขัง เล่าให้ฟังอีกว่า อาคารแห่งนี้กำลังจะถูกทุบลงและเปลี่ยนแปลงไปเป็น อาคาร 1ใน 4 หลังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหลังใหม่ โดยขณะนี้ เริ่มรื้อบางส่วนของอาคารไปบ้างแล้ว เหลือเพียงแต่ห้องขังที่ยังคงอยู่
แต่.....ลูกกรงในห้องขังจะถูกรื้อย้ายไปติดตั้งยังอาคารใหม่ ที่กำลังก่อสร้างของกองปราบปรามซึ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนจะย้ายลูกกรงตรงจุดที่ชายเสื้อกล้ามสีแดงได้ใช้เป็นจุดที่จบชีวิต จะถูกนำไปใช้ในห้องขังใหม่หรือไม่ รตต.สำเริงบอกว่า ต้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่พิจารณา ต้องตามกันต่อว่า ตำนานผีกองปราบ จะจบลงเพราะการรื้ออาคาร หรือจะไปเริ่มต้นใหม่ที่อาคารหลังใหม่ ...???...

By:วิรวินท์ ศรีโหมด