ยิ่งฝุ่นนอกบ้านสูง ในบ้านยิ่งสูงตาม! หมอมหิดลแนะ งดสูบบุหรี่ จุดธูป เตาถ่าน ลดปริมาณฝุ่นในบ้าน

06 กุมภาพันธ์ 2562, 14:09น.


        ที่ผ่านมาเราตื่นตัวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 กันมากขึ้น และหาทางป้องกันจากภายนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในบ้านก็มีฝุ่น PM2.5 โดย อ.นพ.มงคล สมพรรัตนพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้ทำการวิจัยปริมาณฝุ่น PM2.5 ภายในบ้าน เทียบกับนอกบ้าน โดยสุ่มจากบ้าน อาคารและออฟฟิศในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด 7 แห่ง พบว่าทั้งในบ้านและนอกบ้านมีความสัมพันธ์กับฝุ่น PM2.5 ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้าฝุ่นนอกบ้านสูงถึง 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ภายในบ้านก็จะอยู่ที่ 50-60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร



        ทั้งนี้สันนิษฐานว่าฝุ่นอาจเล็ดลอดเข้ามาตามซอก ๆ ต่าง เช่น ช่องอากาศ รอยรั่วตามกำแพง หรือการซีลตรงหน้าต่างและประตูไม่สนิท แม้ว่าจะปิดประตู หน้าต่างสนิทแล้วก็ตาม ที่น่าห่วง คือ บางที่ฝุ่น PM2.5 ภายในบ้านอาจสูงกว่านอกบ้าน ซึ่งคาดว่า เกิดจากการเผาไหม้สารอินทรีย์ภายในบ้าน เช่น การสูบบุหรี่ การทำอาหารโดยใช้เตาถ่าน รวมถึงการใช้เครื่องถ่ายเอกสาร



        รู้ได้อย่างไรว่าในบ้านมีฝุ่น PM2.5

        วิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจด้วยเครื่องเซ็นเซอร์ แต่ในกรณีที่ไม่มีสามารถดูได้จากแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ว่าฝุ่นนอกบ้านมีปริมาณเท่าใด ซึ่งสามารถคาดได้ว่าฝุ่นในบ้านจะสูงไปในทิศทางเดียวกัน โดยสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่า เรารับฝุ่น PM2.5 เข้าไปในร่างกาย คือ มีอาการคันจมูก คันตา แสบคอ หรือมีอาการไอ ซึ่งคนที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคภูมิแพ้หรือระบบทางเดินหายใจอยู่แล้วก็ควรใช้ยาสม่ำเสมอ หรือไปพบแพทย์เพื่อประเมินและปรับยา



        ป้องกันฝุ่น PM2.5 ภายในบ้าน ต้องทำอย่างไร

        การป้องกันฝุ่น PM2.5 ทำได้ด้วยลดการสร้างฝุ่นภายในบ้าน เช่น เลี่ยงการสูบบุหรี่ จุดธูป การทำครัวโดยใช้ถ่าน รวมถึงปิดหน้าต่างให้สนิท ทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ การปลูกต้นไม้นอกบ้านก็ช่วยลดฝุ่นได้ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม  คือ การทำความสะอาดแผ่นกรองในเครื่องแอร์อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเครื่องแอร์จะช่วยกรองฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการใช้เครื่องฟอกอากาศก็สามารถลดปริมาณมลพิษ PM2.5 ได้ โดยใช้ให้ถูกวิธีโดยการวางในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ว่างห่างจากตัวผนังห้อง 2 ฟุต และวางในตำแหน่งที่กระแสลมไม่สวนทางกับเครื่องปรับอากาศ เพียงเท่านี้เครื่องฟอกก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ    

        ข้อมูลจาก : Mahidol Channel

        ภาพจาก : drweil  livescience



 

X