ปัญหาของฝุ่นละออง (PM 2.5) ที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศทั่วทุกพื้นที่กทม. และปริมณฆล สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย เมื่อหายใจรับฝุ่นเหล่านี้เข้าไปมากๆก็จะทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ และอาจนำไปสู่การสูญเสียชีวิตได้ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดต่อมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจส่งผลต่อบรรดาสัตว์เลี้ยงได้ด้วยเช่นกัน เพราะแม้ว่าสุนัข หรือแมว จะมีภูมิคุ้มกันต่อฝุ่นได้มากกว่ามนุษย์ แต่หากสะสมเข้าไปในปอดมากๆก็จะส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกันเดียวกัน
จากที่ทาง JS100radio ได้พูดคุยกับ นายสัตวแพทย์ ธีระวุฒิ สุวัธนะเชาว์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์ และ สัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ เผยว่า ระบบทางเดินหายมีความสลับซับซ้อนกว่ามนุษย์ ทำให้โอกาสที่ฝุ่นจะเล็ดลอดเข้าไปมีน้อย ขนจมูกของสัตว์นั้นจะมีความใกล้เคียงกับจมูก สามารถกรองฝุ่นได้ PM10 แต่จะมีเมือก และความชุ่มชื้นมากกว่า ซึ่งสามารถขับออกมาได้ทางเสมหะ หรือกลืนเข้าไป อย่างไรก็ตามสัตว์เลี้ยงบางชนิดที่มีหน้าสั้น เช่นสุนัขหน้าสั้น พันธุ์ปั๊ก หรือปักกิ่ง แมวเปอร์เซีย สก๊อตติสโฟลด์ ก็อาจมีโอกาสหายใจเข้าไปได้มากกว่าสัตว์เลี้ยงที่มีหน้ายาว เมื่อหายใจรับเข้าไปก็จะไปเกาะตามเยื่อหุ้มปอด เนื่องจากฝุ่น จะเป็นสารอินทรีย์ที่ไม่ละลาย และไม่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน หากสะสมมากๆเข้าก็อาจเป็นผลกระทบต่อสุขภาพได้
สำหรับอาการของสัตว์เลี้ยงที่อาจพบได้ จากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 มีดังนี้
- ระบบทางเดินทางใจ : สัตว์เลี้ยงอาจมีอาการเป็นหวัด และมีเสียงหายใจถี่ หรือดังกว่าปกติ
- โรคผิวหนัง : สัตว์อาจมีผื่นขึ้นบริเวณท้อง หรือตามตัว
ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงก็จะต้องหมั่นดูแลสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยง และ สังเกตุอาการของสุนัขอย่างสม่ำเสมอ รวมไปการทำความสะอาดบ้านเรือน หรืออาคาร ทั้งภายใน และภายนอก โดยการสร้างความชื้น เช่น การฉีดน้ำ หรือรดน้ำต้นไม้ก็สามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นได้ หมั่นอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงบ่อยๆ บางบ้านก็อาจนำมาอาศัยในอาคาร หรือภายในบ้านด้วย แต่ก็อาจมีการฟุ้งกระจายของขนสัตว์ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยไม่แพ้ฝุ่น หากพบว่าเหงือกซีด มีอาการซึม ร่างกายอ่อนแรง กินอาหารได้น้อยลง หรือสิ่งผิดปกติ ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที