'ดร.พิจิตต' แนะเข้มงวดพื้นที่ก่อสร้าง หรือให้หยุดชั่วคราวก่อน ระหว่างที่อากาศจมตัว

        ดร.พิจิตต รัตตกุล เลขาธิการองค์กรระหว่างประเทศภัยพิบัติแห่งเอเซีย ให้สัมภาษณ์ผ่าน JS100 ว่า ปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลน่าเป็นห่วงอย่างมาก ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของความเคยชิน หรือรอแค่ลมพัดผ่านไป การนิ่งเฉยอดทน เท่ากับเป็นการทำร้ายปอดไปทุกวัน ควรกำจัดตั้งแต่แหล่งกำเนิดไม่ให้เกิดฝุ่นขึ้นมาอีก อย่าคิดว่าเป็นแค่บางพื้นที่ เพราะตอนนี้มีฝุ่นละอองกระจายอยู่ทั่วเมือง จะมากหรือน้อยตรงบริเวณใดเท่านั้น





        ปัจจัยการเกิดฝุ่นละอองมีอยู่ทุกวันและมีมานานแล้ว อาทิ พื้นที่อุตสาหกรรมย่านบางซื่อ พื้นที่ก่อสร้างอาคารสูง แนวรถไฟฟ้า ความหนาแน่นของการจราจร ควันพิษจากท่อไอเสีย ซึ่งเมื่อไรที่อากาศจมตัวก็จะเกิดการสะสมของฝุ่นละอองเหมือนปัจจุบัน การหายใจเข้าไปมีผลในระยะยาวอย่างแน่นอน ประชาชนกลุ่มเสี่ยงยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ งดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย N95





        สำหรับมาตรการแก้ไขขอเสนอให้แก้ที่สาเหตุ เริ่มจากการควบคุมการเผาไหม้ทุกชนิดในที่โล่งแจ้ง ส่วนตามสถานที่ก่อสร้างต้องเคร่งครัดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ฉีดน้ำตามรอบวัน รถที่ออกจากไซต์งานก่อสร้างต้องคลุมผ้าใบ ล้างทำความสะอาดรถก่อนออกมาใช้บนท้องถนน หากฝ่าฝืนต้องมีโทษปรับ หรือในช่วงที่อากาศจมตัวออกจำเป็นต้องขอให้หยุดงานไว้ก่อน นอกจากนี้อยากเสนอให้มีการทำฝนหลวงในพื้นที่ จะช่วยลดฝุ่นลงไปได้มาก ขณะเดียวกันรถยนต์ทุกชนิดโดยเฉพาะรถขนาดใหญ่ต้องควบคุมไม่ให้ปล่อยควันดำ ต้องพึ่งการตรวจจับ การตั้งด่านเข้มงวด การกำหนดพื้นที่ห้ามรถที่มีผู้โดยสารไม่ถึง 3 คน เข้าในบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อเป็นการไม่เพิ่มมลพิษ การห้ามจอดติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้





        "ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แนะให้ข้อมูลที่เป็นความจริงกับประชาชน อย่าห่วงว่าถ้าพูดไปจะมีผลกับการท่องเที่ยว เพราะประชาชนผู้อยู่อาศัยจะกลายเป็นผู้รับเคราะห์ น่าเห็นใจคนที่ทำอาชีพอยู่บนถนน หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ตรงกันข้ามหากให้ข้อมูลที่เป็นความจริงแล้วมาช่วยกันแก้ไข อาจถึงขั้นต้องเป็นวาระพิเศษ เมื่อคุณภาพอากาศดีขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะมั่นใจ" ดร.พิจิตตฯ กล่าว

 

ภาพประกอบข่าว มติชน ,@Natalee0105 ,@crook_shank