กรมการขนส่งทางบก ย้ำ! ยังไม่ปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ ยืนยันต้องพิจารณาคุณภาพการให้บริการ ร่วมกับผลการศึกษาจาก TDRI

29 ตุลาคม 2561, 14:57น.


     นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่ ควบคู่กับการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนและค่าครองชีพ เพื่อให้ผู้ขับรถแท็กซี่สามารถประกอบอาชีพได้นั้น เมื่อปี 2557 กรมการขนส่งทางบกกำหนดแนวทางการปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (รถแท็กซี่) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยให้ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ของอัตราค่าจ้างเดิม




     โดยกำหนดการปรับเป็น 2 ระยะ สำหรับระยะที่ 1 ให้ปรับค่าโดยสารไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2557 ในอัตราร้อยละ 8 ส่วนการปรับค่าโดยสารระยะที่ 2 กรมการขนส่งทางบกได้ติดตามประเมินผลพบว่า คะแนนความพึงพอใจผ่านแอปพลิเคชัน DLT Check in น้อยกว่า 70 % นอกจากนั้น ปริมาณข้อร้องเรียนผ่านศูนย์ 1584 เกี่ยวกับการปฏิเสธผู้โดยสารและการไม่ใช้มาตรค่าโดยสารไม่ลดลง จึงระงับการปรับอัตราค่าโดยสารไว้จนกว่าปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ได้รับการยอมรับจากประชาชน




     จากสถิติการร้องเรียนรถแท็กซี่ผ่านสายด่วน 1584 ในปีงบประมาณ 2561 (1 ตุลาคม 2560 – 30 กันยายน 2561) มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 48,223 เรื่อง สูงกว่าปีที่ผ่านมา (ปี 2559 มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 43,804 เรื่อง, ปี 2560 มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 43,254 เรื่อง)


เรื่องร้องเรียน 5 อันดับแรก คือ


- ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร


- แสดงกิริยาไม่สุภาพ


- ขับรถประมาทหวาดเสียว


- ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร


- ไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง




     ทำให้การปรับอัตราค่าโดยสารต้องนำประเด็นการร้องเรียนจากประชาชนมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกตระหนักถึงความจำเป็นเพื่อให้การพัฒนาคุณภาพการให้บริการแท็กซี่อย่างยั่งยืน จึงได้จ้างสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ทำการศึกษาปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ รวมทั้งโครงสร้างต้นทุนการประกอบการและอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ซึ่งได้ส่งมอบผลการศึกษาแล้ว ขณะนี้ กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างพิจารณาผล และจัดทำสรุปนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาต่อไป
X