จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถตู้คันเกิดเหตุเป็นตู้โดยสารเช่าเหมาคันหมายเลขทะเบียน 33-2779 กรุงเทพมหานคร สิ้นอายุภาษีวันที่ 31 มีนาคม 2562 นำรถเข้าตรวจสภาพครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 ผู้ขับรถคือ นายคมวัฏ แซ่พู ใบอนุญาตผู้ขับรถ ท.2 เลขที่ 2กจ.155/57 สิ้นอายุ 3 สิงหาคม 2562 ซึ่งเสียหลักลงข้างทางชนต้นไม้จนเกิดเพลิงลุกไหม้
สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีการฝ่าฝืนข้อกฎหมายหลายบท ประกอบกับเป็นอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกจึงได้ดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตประกอบการขนส่งเป็นเวลา 6 เดือน และพักใช้ใบอนุญาตขับรถระหว่างพิจารณาผลคดีเป็นเวลา 180 วัน และเพิกถอนรถคันเกิดเหตุออกจากประกอบการทันที
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดกำแพงเพชรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลทางคดีอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการขนส่งเพิ่มเติมในฐานความผิดฐานไม่ควบคุมกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยขั้นสูงสุดเป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมพิจารณาโทษพนักงานขับรถ ข้อหาบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งเปรียบเทียบปรับสูงสุดเป็นเงิน 5,000 บาท และหากผลการสอบสวนถึงที่สุดพบว่าสาเหตุอุบัติเหตุเกิดจากความบกพร่องของตัวรถ ผู้ประกอบการขนส่งหรือผู้ขับรถจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดทุกกรณีความผิดต่อไป
ในส่วนของการคุ้มครองผู้โดยสารตามกฎหมาย ผู้ประกอบการมีการจัดทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยเพิ่มเติมภาคสมัครใจชั้นหนึ่งกับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด ซึ่งกำหนดจ่ายค่าสินไหมแก่ผู้บาดเจ็บสูงสุด 80,000 บาทต่อราย พนักงานขับรถไม่เกิน 30,000 บาท กรณีเสียชีวิตสูงสุดได้คนละ 300,000 บาท โดยกรมการขนส่งทางบกจะกำชับให้ติดตามการคุ้มครองดูแลจนครบถ้วนทุกราย