นายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปกติตามระเบียบของข้อมูลที่จะขอทางราชการดูได้ จะมี 2 แบบ คือ 1.แบบเปิดเผยได้ เช่น ข้อมูลประชาสัมพันธ์ทั่วไปที่ประชาชนควรรู้ และแบบที่ 2.แบบเปิดเผยไม่ได้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในกรณีนี้ที่เป็นข้อมูลแผ่นป้ายทะเบียนรถ ชื่อนามสกุล และที่อยู่ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าตัวต้องอนุญาตด้วยเท่านั้น เว้นแต่เป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจ อัยการ ศาล ทนายที่ได้รับการแต่งตั้ง ประกันภัย และบุคคลที่ได้รับการอนุญาต ซึ่งต้องมีการยื่นเอกสาร และชำระเงินค่าคัดลอกตามระเบียบด้วย
จากกรณีดังกล่าวสังคมอาจมองว่า หากชายตามคลิปประกอบอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจรถ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้นั้นย่อมไม่เป็นความจริง การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นได้นั้นต้องเป็นไปตามระเบียบข้างต้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น อย่างไรก็ตามการที่เจ้าหน้าที่คนใดก็ตามไปบอกผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมมีความผิดฐานประพฤติมิชอบ มีโทษทางวินัย ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนคดีอาญาต้องมีเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีแล้วแต่กรณีด้วย