Nine Inch Nails (NIN) สุดยอดวงอเมริกันอินดัสเทรียลร็อค (American industrial rock) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1988 โดยชายที่ชื่อว่า Trent Reznor ชายผู้ปีนป่ายขึ้นมาจากอาชีพที่เล็กที่สุดในสตูดิโอแห่งหนึ่ง ในเวลางานเขามักจะคอยทำความสะอาดทุกซอกมุมอย่างหมดจด แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานของซาวด์เอนจีเนียร์ อาศัยเทคนิคเรียนรู้ทีละเล็กทีละน้อย จนได้เลื่อนขั้นเป็นซาวด์เอนจีเนียร์ตัวจริงในเวลาต่อมา จนในที่สุดก็ศึกษาจนเชี่ยวชาญ จึงกลายมาเป็นสตูดิโออัลบั้ม “Pretty Hate Machine” อัลบั้มแรกสุดโด่งดัง จนทำให้เขาขึ้นแท่น กลายมาเป็นสุดยอดตำนานแห่งยุค ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินยุคใหม่ๆในเวลาต่อมา ปัจจุบันพวกเขามีผลงานสตูดิโอมากถึง 10 อัลบั้ม การันตีความสำเร็จจากรางวัล Grammy Awards ถึง 2 ครั้ง , นอกจากนี้ NIN ยังถูกยกย่องเชิดชูให้เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่มีอิทธิพล และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ จากสื่อ และนิตยสารชื่อดังมากมาย อาทิ Time Magazine , Rolling Stone , Billboard และอื่นๆอีกเพียบ!!

โดยล่าสุดวานนี้ (14 ส.ค.) พวกเขาก็เพิ่งมาเปิดคอนเสิร์ตให้แฟนๆชาวไทยได้สัมผัสกับความเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่กันไปแบบสดๆร้อนๆ งานนี้จัดขึ้นโดย VIJI CORP ออร์กาไนเซอร์คอนเสิร์ตชื่อดังของเมืองไทย ผู้ซึ่งเคยนำวง Guns N’ Roses มาให้แฟนๆชาวไทยได้ดูกันไปเมื่อปีที่แล้ว (อ่านบทความเก่าคลิ๊กเลย) งานนี้ผู้เขียนก็ไม่รีรอขอเก็บความประทับใจเหล่านั้น มาฝากแฟนๆ JS100radio อีกเช่นเคย

เมื่อมาถึงงานผู้เขียนก็รู้สึกหิวมากๆ เนื่องจากยังไม่ได้ทานอะไรมาสักเท่าไหร่ แต่ก่อนอื่นที่เราจะต้องทำนั่นก็คือแลกบัตร พร้อมติด Wrist band กันให้เรียบร้อยเสียก่อน ส่วนบรรยากาศโดยรอบงานก็ครึกครื้นไปด้วยแฟนเพลงชาวไทย และชาวต่างชาติที่มารอดูโชว์ของ Nine Inch Nails อยู่กันเป็นจำนวนมาก หลายๆคนมีการพูดคุย-พบปะสังสรรค์กันอย่างอบอุ่น
หลังจากที่ต่อแถวติด Wrist band เสร็จเรียบร้อย ต่อมาผู้เขียนก็ถือโอกาสไปเลือกช็อปสินค้าลิขสิทธิ์จากทางวงกันสักเล็กน้อย งานนี้มีทั้งเสื้อทัวร์ , กระเป๋าผ้า และอื่นๆ งานนี้ก็เลือกซื้อกันไปพอประมาณ..ตามกำลังทรัพย์ที่ตระเตรียมมา สิ่งที่ประทับใจมากๆในส่วนนี้ ก็คือระบบการจัดการที่ดี จำกัดให้ซื้อได้แค่คนละ 2 ชิ้นเท่านั้น อีกทั้งยังต้องติดสายข้อมือก่อน เพื่อป้องกันพ่อค้า-แม่ค้ามากอบโกยของไปขายเก็งกำไรนั่นเอง (นักดูคอนเสิร์ตจะรู้ดีที่สุด จากประสบการณ์ล้วนๆ) อันนี้ต้องขอชื่นชมผู้จัดงานจากใจจริงครับ ยอดเยี่ยมมากๆเลย

หลังจากเดินช็อปสินค้ากันไปแล้ว ต่อมาเราก็มาหาอะไรทานกันดีกว่า ที่นี่มีร้านขายอาหาร และเครื่องดื่มพร้อม เพื่อให้แฟนๆได้เติมพลังก่อนไปมันส์กับโชว์ พอทานอะไรเสร็จจนรู้สึกมีเรี่ยวแรง ก็ไม่พลาดที่จะแวะเวียนไปถ่ายรูปกับ ป้าย Backdrop ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นจุด check-in แชะ-แชร์ผ่านโซเชียล หรือ save ภาพไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะไปดูโชว์หลักเล่นในเวลา 21:30 น. อ๊ะ!! ก่อนเข้าไปในพื้นที่จัดแสดงทุกครั้งก็อย่าลืมเดินมาเข้าห้องน้ำทำธุระให้เรียบร้อยเสียก่อนนะครับ เพื่ออรรถรสในการชมคอนเสิร์ตอย่างสบายใจ
เอาล่ะครับ หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบกันไปพอประมาณ ก็เข้ามาถึงภายในพื้นที่จัดแสดงกันดีกว่า จากที่ดูข้างนอกก็รู้สึกว่าคนเยอะแล้วนะ แต่พอเข้ามาข้างในคนเยอะกว่ามาก!! อย่างที่บอกไปว่างานนี้มีทั้งแฟนๆชาวไทย และชาวต่างชาติมาด้วย ผมนี่ยืนอยู่ตรงที่มีชาวต่างชาติอยู่เต็มไปหมด แต่ด้วยพลังแห่งดนตรี ผมก็รู้สึกแฮปปี้มากๆที่มายืนดูร่วมกันพวกเขา เรารู้สึกเหมือนเพื่อน และอบอุ่น พอมารวมๆกันเยอะๆแล้วรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกเบิกบานใจมากๆเลยล่ะ โอ้ยย!!โชว์ใกล้จะเริ่มแล้ว ตื่นเต้นๆ
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เรารอคอย บริเวณโดยรอบเวทีถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควัน effect เป็นในลักษณะของหมอกจางๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดนตรีเริ่มเปล่งออกมาเรื่อยๆ เริ่มหนักขึ้นๆๆ แสงสปอตไลท์ effect บนเวทีเริ่มทำงาน จากนั้นพวกเขาก็ออกมา!! โชว์ของ Nine Inch Nails ได้เริ่มขึ้นแล้ว บทเพลงสุดฮิตถูกบรรเลงออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ระเบิดความมันส์ให้แฟนๆอย่างสุดเหวี่ยง
Trent Reznor โชว์ทักษะทางด้านดนตรีที่เหนือชั้น การแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราด ดุดัน ไปพร้อมกับบทเพลงฮิตที่ขนมาให้แฟนๆได้สัมผัสกันอย่างจุดใจ ความรู้สึกของโชว์นั้นราวกับภาพวาด ไม่สิ ขอเรียกว่าหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของศิลปะเลยก็ว่าได้ มันก็ออกจะหม่นๆเทาๆ หมอกควันจางๆ (effect) ให้อารมณ์ที่อลหม่าน ความดิบของซาวด์ราวกับเครื่องจักรในโรงงาน ผนวกกับ electronic sound ที่ชวนแดนซ์ และความเป็นร็อคปะปนกันไป ผสมผสานกับเนื้อหาที่รุนแรง..โหดร้าย แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังให้ความรู้สึกที่เป็นศิลปะ มันจึงดูสวยงาม และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
ทางด้าน Production ที่นำเสนอออกมา ก็ถือว่ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะการจัดวาง light effect รู้เลยว่าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน และจังหวะการเล่นแสง-สีของไฟต่างๆ เข้ากับจังหวะของเพลงเป๊ะๆ ส่วนหมอกควันที่กล่าวไปข้างต้น ก็สร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่แบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน

ส่วนบทเพลงที่พวกเขานำมาเล่นนั้นก็ยอดเยี่ยมทุกเพลง เล่นกันได้อย่างมันส์สุดๆ งานนี้ก็เพื่อแฟนเพลงชาวไทยโดยเฉพาะ!! อาทิ Somewhat Damaged , Wish , March of The Pigs , Piggy , The Frail , Closer , Head Like a Hole , Hurt และอื่นๆอีกมากมาย รวมแล้วก็ประมาณ 20 กว่าเพลงเลยทีเดียว คุ้มมาก!!

นับว่าเป็นความโชคดีของแฟนเพลงชาวไทย ที่มีโอกาสได้ดูพวกเขาเล่นสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งโอกาสแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ส่วนตัวแล้วรู้สึก Very Good !! มากๆ ไม่เคยเห็นโชว์อะไรที่มันส์ขนาดนี้มาก่อน สารภาพตามตรงว่าเพิ่งได้ศึกษา และฟังผลงานของพวกเขาไปเมื่อไม่กี่เดือน แต่พอได้มาดูโชว์นี้แล้ว ขอบอกเลยว่า “คิดถูกจริงๆที่ได้มาดู สมคำร่ำรือจริงๆ” แม้ว่ากาลเวลาจะทำให้พวกเขามีอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ความสดใหม่ และการพัฒนาในแง่ของดนตรี การผสมผสานสิ่งใหม่ๆลงไป ทำให้เป็นที่ถูกใจทั้งชาวร็อค และขาแดนซ์ อีกทั้งดนตรีของพวกเขาก็ยังคงครองใจแฟนเพลงมาโดยตลอดกว่า 30 ปี แล้วก็ยังมีแฟนเพลงรุ่นใหม่ๆที่แวะเวียนเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ดนตรีจากพวกเขาอย่างต่อเนื่อง พอจบโชว์แฟนๆทุกๆคนก็ต่างพากันยิ้มแย้มไปด้วยความเป็นสุขที่ได้ดูโชว์ในครั้งนี้ รวมไปถึงผู้เขียนด้วยเช่นกัน ขึ้นสวรรค์กันเลยทีเดียว สุดยอดมาก!! งานนี้ก็ขอขอบคุณผู้จัดงาน VIJI CORP ที่นำศิลปินระดับตำนานแบบนี้มาให้แฟนๆชาวไทยได้ดูกันแบบ exclusive สุดๆ 

.jpg)


บทความโดย : พัดโบก วังแก้ว