อย่า อย่า อย่า!!! 7 ข้อห้าม หลังรับประทานอาหารที่ควรรู้

14 มิถุนายน 2561, 19:00น.


      เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านมักจะมีกิจกรรมหรือพฤติกรรมต่าง ๆ หลังรับประทานอาหารอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนั่งดูทีวี พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคนในครอบครัว หรือแม้แต่นอน แต่ทุกท่านทราบหรือไม่คะ ว่ากิจกรรมหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ท่านทำนั้นอาจส่งผลให้สุขภาพงอแงได้ วันนี้เราจะพาไปดู 7 ข้อห้ามหลังรับประทานอาหารที่ควรรู้กันค่ะ

1. ห้ามทานผลไม้ทันทีหลังอาหาร

      บางบ้านอาจจะมีความเชื่อที่ว่าทานของคาวเสร็จแล้วต้องล้างปากด้วยผลไม้สิ  ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ เพราะการทานผลไม้ทันทีจะทำให้ใยอาหารไปพองตัวอยู่ในท้อง จนอาจทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อได้ ทางที่ดีหากจะทานผลไม้แนะนำให้ทานก่อนหรือหลังอาหาร 1 หรือ 2 ชม.





2. ห้ามดื่มชา

        เนื่องจากในใบชามีความเป็นกรดสูง ทำให้โปรตีนที่เราทานเข้าไปมีความกระด้างขึ้น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานยากลำบาก





3. ห้ามขยายเข็มขัดออก

         ข้อนี้เนี่ยเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านน่าจะทำกันอยู่บ่อย ๆ โดยการขยายเข็มขัดที่ว่านี้หมายรวมถึงการปลดกระดุมกางเกง กระโปรงด้วยนะคะ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ควรทำเลยเพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลำไส้ทำงานไม่ปกติ อาจทำให้ลำไส้บิดตัวและเกิดการอุดตันได้





4. ห้ามสูบบุหรี่

       ข้อนี้อยากจะเตือนสิงห์อมควันทั้งหลายเลย ว่าการสูบบุหรี่ 1 มวนหลังรับประทานอาหารทันทีจะเทียบได้กับการสูบบุหรี่ในเวลาปกติถึง 10 มวนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเพิ่มโอกาสเกิดโรคมะเร็งมากขึ้นกว่าเดิมอีกนะคะ





5. ห้ามเดิน

       การเดินไม่ได้ช่วยย่อยอาหารอย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจกันนะคะ แต่ยิ่งเดินก็จะยิ่งทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ จึงควรพักอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ ค่ะ





6. ห้ามอาบน้ำ

      การอาบน้ำหลังรับประทานอาหารจะไปกระตุ้นให้ความดันโลหิตไหลเวียนไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ทำให้จำนวนเลือดที่ส่งไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมีจำนวนลดลง ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารมีประสิทธิภาพลดลงตามไปด้วย 





และข้อสุดท้ายข้อที่ 7. ห้ามนอนทันที

       การนอนทันทีจะทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปไม่สามารถย่อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคกรดไหลย้อนและเกิดลมในกระเพาะอาหารได้





      เมื่อทุกท่านทราบแล้วว่าพฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำหลังรับประทานอาหารทันที ก็ควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้เสียนะคะ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและห่างไกลจากโรค เพราะถ้าเราไม่ดูแลตัวเองแล้วใครจะมาดูแลเราจริงไหมคะ



อ้างอิง : hilunch.com, health.haijai.com

ภาพประกอบ : prikkaeng.com, giadinh.net.vn, Womenplusmegazine.com, thaihealth.or.th, FotobyLinhPing ,todaatual.com





 





 



 



 

X