ปัจจุบันประเทศไทย ยังคงต้องเผชิญหน้ากับปัญหาของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และเมื่อเร็วๆนี้ กรมทางหลวง ก็ได้มีการเผยสถิติตัวเลขของการเกิดขึ้นอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศ โดยในเดือนเมษายน 2561 นั้นมีจำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 3,505 คัน มีผู้เสียชีวิต 377 คัน และบาดเจ็บอีก 2,650 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับเมษายนปีที่แล้ว มีสถิติเพิ่มขึ้นมากถึง 14 % เลยทีเดียว
แล้วรู้หรือไม่? อะไรคือสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ? เรามาดูกัน!! อันดับ 1 คือ การใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 1,410 ครั้ง(62% ) ,รองลงมาคือการขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด 311 ครั้ง (14%) , หลับใน 165 ครั้ง (7%) และเมาสุรา 117 ครั้ง (5%)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้น บริเวณทางตรง 1,516 ครั้ง (67%) ทางโค้งปกติ 308 ครั้ง (14%) และทางแยกระดับเดียวกัน 8% (176 ครั้ง)
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 1,119 คัน (32%) ,รถยนต์นั่ง 875 คัน (25%) และรถจักรยานยนต์ 864 คัน (24%)
เห็นแบบนี้แล้วผู้ใช้รถ ใช้ถนน ก็ควรจะลดความประมาท แล้วเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เริ่มจากการเคารพกฏจราจร รักษาวินัย มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทาง ที่สำคัญคือการเห็นแก่สาธารณะประโยชน์เป็นที่ตั้ง ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้ผู้ฉาบฉวยโอกาส หรือผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง อันเป็นปัจจัยหนึ่งในการเกิดอุบัติเหตุ มาสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ขับขี่ท่านอื่นๆ โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะ กล้องที่มีความชัดที่สามารถตรวจจับป้ายเบียนของผู้กระทำความผิดได้ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้จำนวนอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงไปได้มากเลยทีเดียว
หากประชาชนผู้ใช้ทางต้องการแจ้งอุบัติเหตุหรือสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24ชั่วโมง